ร่างพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

พฤหัส ๑๙ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๒๔
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ร่างพระราชบัญญัติฯ) ว่า ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระ 2 และ 3 แล้ว โดยได้รับความเห็นชอบให้ตราเป็นกฎหมายในการประชุม สนช. ครั้งที่ 61/2560 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม 2560

นายพรชัยฯ กล่าวต่อไปว่า ร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 11 มาตรา และสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝากและขั้นตอนกระบวนการจ่ายคืนเงินฝากให้แก่ผู้ฝากเงิน ในกรณีที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาตให้มีความเหมาะสมและก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากยิ่งขึ้น โดย

1.1 ยกเลิกกระบวนการให้ผู้ฝากเงินต้องมายื่นคำขอรับเงินภายหลังจากที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) จะจ่ายคืนเงินฝากแก่ผู้ฝากเงินภายใน 30 วัน ภายหลังจากที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต จากเดิมที่กระบวนการจ่ายคืนเงินฝากแก่ผู้ฝากเงินจะต้องใช้เวลาทั้งหมด 160 วัน

1.2 เงินฝากที่จ่ายคืนแก่ผู้ฝากเงิน หากผู้ฝากเงินมีหนี้ที่ถึงกำหนดชำระเป็นจำนวนแน่นอนก่อนหรือในวันที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต ให้ สคฝ. มีอำนาจหักหนี้ดังกล่าวออกก่อนการจ่ายคืนเงินฝากแก่ ผู้ฝากเงิน

1.3 กำหนดขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลในกรณีที่ผู้ฝากเงินไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่ สคฝ. จ่ายคืนเมื่อสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต

1.4 กำหนดขั้นตอนการขอรับคืนเงินฝากในกรณีที่ผู้ฝากเงินมิได้รับเงินตามกำหนดระยะเวลา 30 วันภายหลังจากสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต และกำหนดขั้นตอนการวางทรัพย์ในกรณีที่ผู้ฝากเงินมิได้มายื่นขอรับคืนเงินฝากภายในระยะเวลาที่กำหนด

2. กำหนดให้ สคฝ. มีอำนาจกู้ยืมเงินโดยตรง นอกจากการออกตราสารทางการเงิน เพื่อให้มีแหล่งเงินเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการจ่ายคืนผู้ฝากเงิน และการดำเนินการอื่นๆ ตามพันธกิจ

3. กำหนดให้คณะกรรมการควบคุมสถาบันการเงิน และ สคฝ. มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการเงินที่ถูกควบคุมระหว่างกันได้ เพื่อให้การเตรียมการรองรับการจ่ายคืนเงินฝากแก่ผู้ฝากเงินเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

4. กำหนดให้สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย เพื่อประโยชน์ในการชำระบัญชี

5. กำหนดให้คณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝากรายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากเดิมรายไตรมาสเป็นรายครึ่งปี

ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติฯ ที่ผ่านความเห็นชอบจาก สนช. เพื่อตราเป็นกฎหมายบังคับใช้นี้ หากมีสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต สคฝ. จะสามารถจ่ายคืนเงินฝากแก่ผู้ฝากเงิน โดยเฉพาะผู้ฝากเงินรายย่อยด้วยความรวดเร็วขึ้น ตลอดจนช่วยพัฒนากลไกการคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากเงินสร้างความเชื่อมั่นและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสถาบันการเงินแห่งอื่น ๆ ในระบบ รวมทั้งสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบสถาบันการเงิน อันจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในภาพรวม

สำนักนโยบายระบบการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3691 – 2

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน