เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายมุ่งลงใต้ใหม่ของไต้หวัน และสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพของไต้หวันให้เข้าสู่ตลาดไทย สำนักงานสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจรุ่นใหม่ กระทรวงศึกษาธิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) (Youth Development Administration, Ministry of Education) มอบหมายให้ศูนย์นวัตกรรมและพัฒนาสตาร์ทอัพ มหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น (Innovation and Incubation Center, National Sun Yat-sen University) ดำเนินการจัดกิจกรรม โดยร่วมกับสื่อภาษาจีนเกี่ยวกับประเทศไทย VISION THAI และศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) จัดงานสัมมนาเชื่อมสัมพันธ์สตาร์ทอัพไทย-ไต้หวัน (Thailand-Taiwan Startups Cross-Industry Exchange Forum) ในวันที่ 20 ตุลาคม 2560 ที่ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก งานในครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก และมีสตาร์ทอัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากประเทศไทยเข้าร่วมมากถึง 80 บริษัท นอกจากนี้ ยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างมหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น, สื่อภาษาจีน VISION THAI และศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ในกิจกรรมดังกล่าวอีกด้วย
โดยสำนักงานสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจรุ่นใหม่นำคณะสตาร์ทอัพเปี่ยมศักยภาพกลุ่ม U-start จำนวน 10 บริษัท ได้แก่ Tao-Hsi Creative Technology, Imu Memory Studio, Zazazoo, inBloom, Hsiu, Sandwishes Studio, PLEASANT, HOMIYA, GOGO furniture, Upstream เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อแนะนำโมเดลธุรกิจและแลกเปลี่ยนไอเดียการสร้างสตาร์ทอัพกับสตาร์ทอัพไทย พร้อมทั้งเชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้าร่วมบรรยาย อาทิ คุณลินดา เฉิง กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก, คุณพนารัตน์ หมื่นน้อย ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้ากลุ่มงานครีเอทีฟ Artbox Thailand และคุณอัลเลน หลิน ผู้ร่วมก่อตั้ง Airportels
ชิวฉงยู่ ผู้จัดการใหญ่จาก inBloom หนึ่งในสตาร์ทอัพชั้นนำจากไต้หวันในครั้งนี้ ได้เปิดเผยถึงโครงการขยายธุรกิจเข้าสู่ไทยว่า ""หลังจากมาแลกเปลี่ยนความรู้ในครั้งนี้ สัมผัสได้ว่างานออกแบบของไทยมีความเป็นนานาชาติมาก ในส่วนของ inBloom ก็วางแผนที่จะขยายตลาดเข้ามาเปิดร้านในไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนวัย 25-45 ปี""
เต๋อ ลี ผู้ร่วมก่อตั้งสื่อภาษาจีนเกี่ยวกับประเทศไทยวิชั่นไทย (VISION THAI) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดงานหลักในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ""VISION THAI เองก็เป็นหนึ่งในธุรกิจสตาร์ทอัพจากไต้หวันที่เข้ามาสร้างธุรกิจในไทย และตั้งเป้าหมายในการเป็นสะพานเชื่อมโยงให้สตาร์ทอัพจากไต้หวันได้มีโอกาสร่วมมือกับธุรกิจไทยมากขึ้น เรามองว่าประเทศไทยมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอยู่มาก และมีคนจากหลากหลายชาติทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาอยู่ที่นี่ ดังนั้นหากจะเข้าตลาดไทย ต้องวางแผนให้รอบคอบและกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ อาจจะเริ่มจากการนำสินค้ามาขายในตลาดนัดก่อน เพื่อดูแนวโน้มการวางกลยุทธ์ขยายตลาดในอนาคต""
ชมภาพกิจกรรมทั้งหมดได้ที่ https://goo.gl/MBW3d4