บลจ.บีแคป ปลื้มความสำเร็จของ 2 กองทุน

จันทร์ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๕:๔๙
""บลจ.บางกอกแคปปิตอล"" ปลื้ม 2 กองอีทีเอฟ ""BMSCITH-BSET100"" สำเร็จตามเป้า Tracking Error ต่ำ0.05% - สภาพคล่องดี พร้อมเดินหน้าให้ความรู้นักลงทุนต่อเนื่อง เปิดแผนปีหน้าส่งกองอีทีเอฟเพิ่มเติมอีก 7 กอง ชูสไตล์การลงทุนที่หลากหลายเป็นจุดขาย ประเดิม ""หุ้นขนาดกลาง-เล็กธรรมมาภิบาล"" ขายกลางเดือนก.พ.61 ลั่นขอเวลา 5 ปี ทำตลาดกองทุนอีทีเอฟในไทยให้เกิดขึ้น ก่อนขยับออกต่างประเทศต่อไป

ดร.ธนาวุฒิ พรโรจนางกูร หัวหน้าสายงานจัดการกองทุน บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund : ETF) ทั้ง 2 กอง ที่บริษัทออกมาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุนไทยทั้ง ""กองทุนเปิด BCAP MSCI Thailand ETF FUND (BMSCITH)"" และ ""กองทุนเปิด BCAP SET100 ETF (BSET100)"" ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดีในแง่ของเป้าหมายกองทุนในการแทรคดัชนีอ้างอิงแล้วถือทำได้ดีมาก กอง BMSCITH มีค่าความผันผวนของส่วนต่างระหว่าง

ผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนรวมและผลตอบแทนดัชนีอ้างอิง (Tracking Error) ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 0.05% เท่านั้น ในขณะที่กองทุนคู่แข่งในกลุ่มนี้ที่มี Tracking Error ดีสุดก็อยู่ที่กว่า 0.2% จะเห็นว่า Tracking Error ของกองทุน BMSCITH ต่ำกว่ามากเป็น 1 ใน 4 ของกองที่ดีสุดในกลุ่มนี้เท่านั้น ในส่วนของกอง BSET100 เนื่องจากเพิ่งจัดตั้งได้ไม่นานแต่ก็คิดว่าน่าจะใกล้เคียงกันเพราะใช้กลยุทธ์ในการแทรคดัชนีเช่นเดียวกับกอง BMSCITH ในเรื่องของสภาพคล่องในการซื้อขายเองกองทุนทั้ง 2 ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ทางบมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวงที่ทำหน้าที่สร้างสภาพคล่อง (Market Maker) ให้กับกองทุนทั้ง 2 ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ช่วงราคาขยับ 0.01 – 0.02 บาท เท่านั้น ซึ่งหากไปเปรียบเทียบกับกองอีทีเอฟที่มีอยู่แล้วจะพบว่าส่วนใหญ่ไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย ตรงจุดนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

""สำหรับลูกค้าที่ต้องการเคาะซื้อ-ขายมากกว่า 10 ล้านบาท ขึ้นไป แนะนำให้ติดต่อบมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง ได้โดยตรง ทาง Market Maker สามารถทำให้ท่านได้ราคาเดียวทั้งจำนวนได้ เพราะหากไปเคาะในกระดานอาจจะทำให้ราคาขยับขึ้นไปหลายช่วงราคาได้ การติดต่อ Market Maker น่าจะสะดวกและมีความคล่องตัวกว่า""

ดร.ธนาวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า จุดเด่นของกองทุนอีทีเอฟคือการบริหารเชิงรับ (Passive Management) ยังคงเป็นสิ่งที่บริษัทยังคงต้องทำกันต่อไปในการให้ความรู้ทำความเข้าใจกับนักลงทุนเพราะบริษัทมีจุดยืนชัดเจนว่าเป็นบลจ.ที่มุ่งเน้นกองทุนดัชนีและอีทีเอฟเป็นธุรกิจหลักสำหรับอุตสาหกรรมกองทุนรวมของไทย จากการเก็บข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่ากองทุนที่มีผลการดำเนินงานติด Top25% ที่มีผลงานดีสุดของปี มีความน่าจะเป็นมากกว่า 50% ที่ในปีถัดไปจะหล่นไปอยู่ในกลุ่มกองทุนที่มี

ผลงานอยู่ในกลุ่มท้ายตาราง ซึ่งกองทุนอีทีเอฟจะมาตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในการเป็นทางเลือกที่จะทำให้เกิดการเลือกกองทุนที่ผิดตัว

""ในแง่ของผลการดำเนินการกองทุนอีทีเอฟถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์นักลงทุน แต่เราคงต้องให้ความรู้กับนักลงทุนค่อนข้างเยอะเพื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่างกองทุนที่บริหารเชิงรับ (Passive Fund) กับกองทุนที่บริหารเชิงรุก (Active Fund) เราคงไม่ได้บอกว่าไม่มีกองทุน Active Fund ที่สามารถเอาชนะตลาดได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ข้อเท็จจริงคือมีแต่มีไม่มากและมักจะเป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์ในการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งนักลงทุนก็มีความเสี่ยงในการที่จะต้องไปเลือกผู้ชนะในระยะยาวซึ่งมีอยู่จำนวนน้อยให้เจอ ในขณะที่กองทุนอีทีเอฟซึ่งบริหารเชิงรับกลับเป็นคำตอบสำหรับทางเลือกการลงทุนที่ง่ายกว่ามาก""

ดร.ธนาวุฒิ กล่าวเสริมว่า ในปี2561 บริษัทมีแผนออกกองทุนอีทีเอฟเพิ่มเติมอีก 7 กอง โดยกองแรกของปี2561 นั้นน่าจะออกได้กลางเดือนก.พ.61 เป็นกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลาง และเล็กที่มีธรรมาภิบาล และจะตามมาด้วยกองอีทีเอฟหุ้นที่มีสไตล์การลงทุนที่ชัดเจน เช่น กองอีทีเอฟที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นราคาถูก (Value Investment) เป็นต้น ซึ่งกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นที่ชัดเจนนี้จะคงอยู่เสมอไม่ได้ขึ้นกับผู้จัดการกองทุนแต่ประการใด บริษัทพยายามจะนำเสนอโพรดักท์กองทุนอีทีเอ

ฟที่มีสไตล์การลงทุนที่ชัดเจน ให้มีความหลากหลายเพื่อให้นักลงทุนสามารถนำไปจัดพอร์ตการลงทุนหรือกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มี ทั้งนี้กลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น กองอีทีเอฟหุ้นคุณค่า กองอีทีเอฟหุ้นเติบโต หรือกองอีทีเอฟหุ้นปันผล เป็นต้น

""หากมีสไตล์การลงทุนที่หลากหลายมากเพียงพอ ก็เชื่อว่าทางบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ก็จะสามารถนำไปเขียนเป็นบทวิเคราะห์เพื่อแนะนำการลงทุนให้กับนักลงทุนได้มากขึ้นด้วย ตรงนั้นก็จะทำให้นักลงทุนรู้จักและสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากกองทุนอีทีเอฟได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ในช่วง 5 ปี จากนี้เราจะทำให้กองทุน อีทีเอฟในไทยเกิดขึ้นให้ได้ ถึงจุดหนึ่งที่ตลาดอีทีเอฟในไทยโตมากพอ โอกาสที่จะทำกองอีทีเอฟต่างประเทศก็จะตามมา ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 5 ปีนี้จะต้องทำให้ตลาดกองทุนอีทีเอฟในไทยเกิดขึ้นให้ได้""

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว