ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. สากล เอนเนอยี (SKE) เริ่มซื้อขาย 22 พ.ย. นี้”

อังคาร ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๖:๓๕
บมจ. สากล เอนเนอยี (SKE) ผู้ประกอบธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 22 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO1,674 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SKE"

ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. สากล เอนเนอยี (SKE) ผู้ประกอบธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน (private mother station) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560

SKE ให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติ NGV ให้รถขนส่งก๊าซธรรมชาติของ บมจ. ปตท. เพื่อขนส่งไปยังสถานีบริการ NGV นอกแนวท่อส่งก๊าซ หรือสถานีลูก (daughter station) ปัจจุบันSKE มีสถานีก๊าซธรรมชาติหลัก 2 แห่ง ที่ จ. ปทุมธานี และ จ. สระบุรี มีกำลังการอัดก๊าซธรรมชาติสูงสุดรวม 750 ตันต่อวัน

SKE มีทุนชำระแล้ว 465 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 692.80 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 237.20 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจานวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2560 ในราคาหุ้นละ 1.80 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 426.96 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาIPO 1,674 ล้านบาท โดยมี บล. เคที ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายชัชชัย สุเมธโชติเมธา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สากล เอนเนอยี (SKE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปปรับปรุงประสิทธิภาพระบบสูบอัดและจ่ายก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งต่อยอดการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยจะลงทุนในสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ Conventional แบบ Ex-Pipeline โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นกลยุทย์ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการลดต้นทุน ด้านการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และการพัฒนาเทคโนโลยีในการอัดก๊าซธรรมชาติ และศึกษาความเป็นได้ในการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ ในอนาคต

SKE มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวสุเมธโชติเมธา ถือหุ้น 53.76% กลุ่มครอบครัวนันที ถือหุ้น 20.69% และ บมจ. ไทยประกันชีวิต ถือหุ้น 2.31% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 19.85 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2559 ถึงไตรมาส 3 ปี 2560) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.09 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีจากงบการเงินเฉพาะกิจการ และหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนด

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sakolenergy.com และwww.set.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน