เนื่องจากโสมเกาหลีมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย อาทิ ข่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือดในโรคเบาหวาน ช่วยลดคอเลสเตอรอล เพิ่มความทรงจำ ป้องกันการหดตัวของทางเดินหายใจ ตลอดจนป้องกันโรคมะเร็งและช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิตอีกทั้งโสมเกาหลียังได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยาทางการแพทย์จากองค์การอนามัยโลก (WHO)อีกด้วย ภายในงานได้มีการนำเสนอสุดยอดสรรพคุณของสมุนไพร "โสมและโสมแดง" จากประเทศเกาหลี โดย ผู้เชี่ยวชาญด้านโสมเกาหลี ศาตราจารย์ คิม ซิควาน จากมหาวิทยาลัย คอนกุก และ รองศาสตราจารย์ ดร. ดำรงค์ ฐานดี ผู้อำนวยการศูนย์เกาหลีศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ได้มาพูดคุยถึงสรรพคุณต่างๆ รวมถึงการแนะนำการเลือกซื้อโสมอย่างถูกวิธี อีกทั้งภายในงานยังมีไฮไลท์เด็ดอย่างการสาธิตวิธีการปรุงอาหารโดยใช้โสมเป็นวัตถุดิบหลักซึ่งได้รับเกียรติจากเชฟยุน แด ซุก ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารพื้นเมืองเกาหลี เจ้าของร้านอาหารและหัวหน้าเชฟให้กับร้านอาหารเกาหลีในกรุงเทพฯ มากว่า 20 ปี มาสาธิตขั้นตอนการปรุงอาหารในเมนู ซัมเกทัง หรือไก่ตุ๋นโสม ที่งานนี้ได้ใช้โสมหายากที่มีอายุถึง 6 ปี มาเป็นวัตถุดิบ ซึ่งเชฟเองยังออกปากว่าเป็นครั้งแรกที่ใช้โสมอายุ 6 ปีในการปรุงอาหาร เพราะส่วนใหญ่จะเจอโสมที่อายุมากที่สุดเพียง 4 ปีเท่านั้น ความพิเศษของงานสัมมนายังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะทางองค์การโคเรีย อะโกร-เทรด เซ็นเตอร์ (aT center) ยังจัดเมนูมื้อพิเศษไก่ตุ๋นโสมให้กับผู้ที่มาร่วมงานเป็นมื้อเย็น 1 ท่าน 1 ตัวกันเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นการสัมมนาที่อิ่มอร่อยและสุขภาพดีกันถ้วนหน้า นอกจากนี้ยังมีตัวแทนบริษัทโสมเกาหลีอย่างจอง กวันจังและบริษัทอิลวา ที่มาให้ความรู้และแนะนำผลิตภัณฑ์โสมภายในงานอีกด้วย โดยงานได้ขึ้น ณ ห้องนภาลัยบอลรูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่ผ่านมา