KTIS คาดปริมาณอ้อย-น้ำตาลปีหน้าเพิ่มขึ้นอีก เผย 9 เดือนแรกโตแกร่ง รายได้กว่า 1.5 หมื่นล้าน

พุธ ๐๖ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๒๖
กลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง มั่นใจฤดูการผลิต 60/61 มีอ้อยเข้าหีบมากกว่าปีก่อน หนุนทุกกลุ่มธุรกิจเติบโต ทั้งน้ำตาล เยื่อกระดาษ เอทานอล และไฟฟ้า เผยช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้ 15,305.3 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 59 และมีกำไรสุทธิ 1,140.2 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 4,307%

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า กลุ่ม KTIS ได้เปิดหีบอ้อยสำหรับฤดูการผลิตปี 2560/2561 แล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้ง 3 โรงงาน คือ โรงงานน้ำตาลเกษตรไทยฯ โรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ และโรงงานน้ำตาลเกษตรไทยฯ สาขา 3 มากกว่าฤดูการผลิตปี 2559/2560 เนื่องจากปีนี้มีปริมาณฝนมาก ประกอบกับการทำงานอย่างใกล้ชิดของพนักงานฝ่ายไร่กลุ่ม KTIS กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย ทำให้ผลผลิตตันต่อไร่สูงขึ้นด้วย

"เมื่ออ้อยมีปริมาณมากขึ้น ก็จะสามารถผลิตน้ำตาล รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่นๆ ทั้งเยื่อกระดาษ เอทานอล และไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงชีวมวล ก็จะได้ปริมาณมากขึ้น ส่วนราคาน้ำตาลในตลาดโลกนั้น ก็ยังเชื่อว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันได้อีก" นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว

ทั้งนี้ หากพิจารณาแยกเป็นรายกลุ่มธุรกิจ จะพบว่าธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลจะเติบโตดีในช่วงไตรมาสที่ 4 ของทุกปี ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยนั้น ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 โรงไฟฟ้ายังไม่สามารถเดินเครื่องและขายไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ เพราะปัญหาเรื่องของเชื้อเพลิงบ้าง เครื่องจักรบ้าง แต่นับจากฤดูหีบนี้เป็นต้นไป ได้แก้ไขปัญหาต่างๆ ดังกล่าวแล้ว การรับรู้รายได้จากสายธุรกิจนี้ก็จะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น ทางด้านของธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษจากชานอ้อย ก็มีการเติบโตที่ดีทั้งปริมาณความต้องการที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

นายณัฎฐปัญญ์ กล่าวด้วยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม – กันยายน 2560) กลุ่ม KTIS มีรายได้รวม 15,305.3 ล้านบาท สูงกว่าปี 2559 ทั้งปีที่มีรายได้รวม15,086.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือน 1,140.2 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2559 ถึง 4,307%

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 3 (ก.ค.-ก.ย.60) พบว่า รายได้ของสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย เติบโตสูงสุดถึง 30% เนื่องจากปริมาณการขายเยื่อกระดาษเพิ่มขึ้นแม้ว่าราคาเฉลี่ยจะลดลง รองลงมาเป็นการผลิตและจำหน่ายเอทานอล ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 8.7% จากราคาขายที่สูงขึ้น และธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 4%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว