หมอหัวใจแนะนำ “ปาร์ตี้ปีใหม่แบบไหนไม่ทำร้ายหัวใจ”

ศุกร์ ๐๘ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๖:๓๒
เมื่อถึงช่วงเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะปีใหม่ที่เต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง การปาร์ตี้สังสรรค์ คือกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ แต่การปาร์ตี้แบบที่ช่วยดูแลสุขภาพหัวใจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ควรต้องใส่ใจและเลือกให้พอดีทั้งอาหารการกินและเครื่องดื่ม เพื่อสุขภาพหัวใจแข็งแรง...ในทุกเทศกาล

นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์หัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า "การปาร์ตี้ ถ้าเป็นไปแบบพอดีเดินตามทางสายกลางย่อมดีต่อสุขภาพหัวใจ เพราะฉะนั้นการเลือกทำเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ไม่เกิดผลเสียกับร่างกาย หนึ่งในสูตรอาหารที่อยากแนะนำให้รับประทาน คือ อาหารแบบ Mediterranean Diet เพราะได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ" กินให้ดีแบบ Mediterranean Diet ไม่ว่าจะเป็นคนทำหรือคนทานในงานปาร์ตี้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกชนิดอาหาร กำหนดปริมาณการดื่ม และออกกำลังกาย ซึ่งการปฏิบัติตามพีระมิดของ Mediterranean Diet วิธีรับประทานอาหารตามสัดส่วนแบบเมดิเตอร์เรเนียน คืออีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยให้ลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและทำให้สุขภาพดีมีอายุยืนยาว วิธีการรับประทานอาหารแบบ Mediterranean Diet ในแต่ละวันสามารถทำได้ไม่ยากตามภาพพีระมิดด้านบนยิ่งน้อยยิ่งดีไล่ระดับลงมาพีระมิดด้านล่างยิ่งมากยิ่งดี ดังนี้

เนื้อแดง เนย ข้าวขาว ขนมปังขัดสี เส้นพาสต้า มันฝรั่ง และของหวาน ทานให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น นม ผลิตภัณฑ์นม ชีส ทานได้ 1-2 ครั้งต่อวัน ปลา อกไก่ ไข่ไก่ ทานได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน พืชตระกูลถั่ว ทานได้ 1-3 ครั้งต่อวัน ผัก ทานได้ไม่จำกัด ผลไม้ ทานได้ 2-3 ครั้งต่อวัน โดยเฉพาะบีทรูท มีสารไนตริกออกไซด์ที่ช่วยในเรื่องการขยายตัวของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โฮลเกรน ธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยมากหรือไม่ผ่านเลย ทานได้เกือบทุกมื้อ น้ำมันจากพืช อาทิ มะกอก คาโนลา ถั่วเหลือง ข้าวโพด ทานตะวัน ถั่วลิสง หรือพืชอื่น ๆ ทานได้เกือบทุกมื้อ นอกจากนี้สามารถทานวิตามินรวมด้วยได้ในปริมาณที่เหมาะสม และต้องควบคุมปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สำคัญควรออกกำลังกายทุก ๆ วันและควบคุมน้ำหนักให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่เหมาะสม

ดื่มแบบไม่ทำร้ายสุขภาพ

การดื่มแอลกอฮอล์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อร่างกายอย่างที่ทราบกัน สำหรับคนที่ไม่เคยดื่มไม่แนะนำให้ดื่มเลยจะดีที่สุด แต่สำหรับคนที่ดื่มอยู่แล้วนั้น การดื่มที่ไม่ทำร้ายสุขภาพมากจนเกินไป คือ การดื่มมาตรฐาน(Standard Drink) ซึ่งในกรณีนี้คือ การดื่มแบบพอประมาณ(Moderate Drinking) ได้แก่

- ใน 1 สัปดาห์ จะต้องมี 2 วันที่งดดื่มแอลกอฮอล์

- ใน 1 สัปดาห์ไม่ควรดื่มเกิน 7-21 ดื่มมาตรฐาน(เฉลี่ยต่อวันไม่ควรเกิน 3 ดื่มมาตรฐาน)

- ปริมาณในแต่ละดื่มมาตรฐาน คือ ไวน์ 1 ดื่มมาตรฐาน = 140 ซีซี เบียร์ 1 ดื่มมาตรฐาน = 330 ซีซี (ประมาณ 1 กระป๋อง) สุราที่ได้จากการกลั่น (Spirit 40 ดีกรี) 1 ดื่มมาตรฐาน = 40 ซีซี (ประมาณ 1 ช็อต)

สำหรับประเด็นเรื่องการดื่มนั้น นพ.ชาติทนง กล่าวเพิ่มเติมว่า "ข้อเสียของการดื่มแอลกอฮอล์นั้นคือ เมื่อดื่มแล้วจะขาดการควบคุมตนเอง ทำให้ดื่มในปริมาณมากและมากเกินกว่าที่แนะนำ ซึ่งยังไม่มีการศึกษาใดๆ ที่ระบุว่า เมื่อแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกายแล้วจะนำออกมาโดยปราศจากผลเสีย เพราะฉะนั้นการดีทอกซ์ไม่มีผลแต่อย่างใด สิ่งที่ดีที่สุดคือการควบคุมแต่แรก และไม่ควรที่จะคิดงดดื่มแล้วมาดื่มครั้งหนึ่งในวันเดียวปริมาณมากๆ เพราะการดื่มแบบพอประมาณที่ไม่ทำร้ายสุขภาพมากนัก จะต้องดื่มแบบควบคุมปริมาณในแต่ละวัน และสำหรับคนที่ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรดื่มอย่างเด็ดขาด เพราะแอลกอฮอล์มีแต่ผลเสียต่อสุขภาพไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ส่งผลต่อหัวใจ สมอง และอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย"

ไวน์ดีกับหัวใจจริงหรือ

ในประเด็นของการดื่มไวน์แล้วดีต่อหัวใจนั้น มีการวิจัยพบว่าในไวน์มีส่วนประกอบของสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ลดการเสื่อมของหลอดเลือด ป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด จึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ แต่ในไวน์แต่ละชนิดมีฟลาโวนอยด์ปริมาณไม่เท่ากัน ที่สำคัญร่างกายสามารถได้รับฟลาโวนอยด์จากผักและผลไม้ต่าง ๆ เช่น แอปเปิล ฝรั่ง เป็นต้น จึงไม่จำเป็นจะต้องทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แต่อย่างใด เพราะหากไม่สามารถควบคุมการดื่มแบบพอประมาณได้ย่อมทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายมากกว่าผลดี

เลือกกิจกรรมดูแลหัวใจ

การเลือกกิจกรรมเพื่อดูแลหัวใจให้แข็งแรงนั้นไม่มีรูปแบบตายตัว แต่สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักไว้คือ กิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยและสุขภาพ กิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลาย กิจกรรมท่ามกลางบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดีและเหมาะสมกับตนเอง จะเทศกาลไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับการรู้จักดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงในทุกๆ วัน "เพราะโรคหัวใจไม่ได้เกิดเมื่อวาน แต่เกิดจากการสะสมความเสื่อมสภาพและพฤติกรรมที่มีความเสี่ยง อายุที่เพิ่มขึ้นความเสี่ยงสะสมก็เพิ่มขึ้น ยิ่งดูแลตัวเองช้า ผลที่ได้ย่อมไม่เท่ากับคนที่ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นควรรู้ว่าอะไรคือทางสายกลาง กินดื่มอะไรแบบไหนให้พอดี และควรหมั่นสังเกตตัวเอง หากมีอะไรผิดปกติ ลองกลับมาถามตัวเองแล้วเช็กสุขภาพกันสักนิด โดยเฉพาะถ้ามีอาการที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ ควรพบแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจเพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด" สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ โทร. 02-310-3000 หรือ โทร.1719

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง