ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศ และก้าวต่อไปในปี 2018 ภายในงานว่า ความก้าวหน้าแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย ระยะ 3 ปี ที่ผ่านมา สามารถดำเนินการเสร็จสิ้น 12 โครงการ จาก 34 โครงการ ครอบคลุมด้านการบูรณาการและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลดิจิทัล การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจ การยกระดับความมั่นคงและเพิ่มความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งการก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัล สามารถทำได้โดยการ "เปิดเผย เชื่อมโยง เปลี่ยนผ่าน" เช่น การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ การเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านบริการภาครัฐให้อัจฉริยะมากขึ้น ยกตัวอย่าง การก้าวสู่ Cashless Society หรือสังคมที่ไม่ใช้เงินสดด้วยบริการภาครัฐ เช่น บริการพร้อมเพย์ บัตรแมงมุม ฯลฯ การลดการใช้กระดาษ (Less Paper) ลดการขอสำเนาในการติดต่อราชการ ใช้การยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนแบบสมาร์ตคาร์ด การบริการภาครัฐแบบ One Stop Service เช่น การติดต่อราชการได้แบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ระบบกรอกข้อมูลที่ภาครัฐมีอยู่แล้วให้อัตโนมัติ ส่งเอกสารประกอบเพียงชุดเดียวแล้วหน่วยงานแชร์กัน ไม่ต้องขอซ้ำ เป็นต้น
นอกจากนี้ในปีแห่งข้อมูล 2018 สู่การสร้างบริการอัจฉริยะภาครัฐ จะมีการดำเนินการบริหารจัดการทั้งด้าน Big Data และ Open Data โดยจะประกาศ National Data Set ประมาณ 300-500 ชุดข้อมูล จะมีการเปลี่ยนผ่านด้านคน (Digital Literacy) ด้วยหลักสูตรการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลภาครัฐ หรือ TDGA จะมีกระบวนการ (Digital Transformation Program) ซึ่งเป็นขั้นตอนการพัฒนาบริการภาครัฐในแบบ Agile และการใช้ Data Analytics ช่วยในการตัดสินใจ นอกจากนี้จะมีการร่างกรอบมาตรฐานการพัฒนาบริการดิจิทัลภาครัฐขึ้นมา ภายใต้บทบาทใหม่ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA ตามมติค.ร.ม. เมื่อวันที่10 ตุลาคม 2560 เป็นสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้นในการขับเคลื่อนสู่รัฐบาลดิจิทัล และเป็นกำลังสำคัญในการนำพาประเทศสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างเป็นรูปธรรม