"ส.อ.ท. ร่วมกับภาคีเครือข่าย นำร่องอุตสาหกรรม 14 จังหวัดภาคกลางบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการและมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน"

พุธ ๒๐ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๘:๐๑
?สถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดงานสัมมนาเรื่อง "การบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมใน 14 จังหวัดภาค-กลาง : การบูรณาการ การมีส่วนร่วม ความสมดุลและยั่งยืน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง" โครงการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมแบบบูรณาการและมีส่วนร่วม ในวันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2560 เวลา 08.00 -16.30 น. ณ ห้องบอลรูม โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษกกรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธาน นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวต้อนรับ และ ดร.อรัญญา เฟื่องสวัสดิ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ

?เนื่องด้วยสถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน เป็นหน่วยงานในสังกัดของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกำหนดวิสัยทัศน์ในการเป็น "องค์กรแห่งนวัตกรรมสู่ความยั่งยืนด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณา-การ" โดยมียุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ การกำหนดทิศทางการใช้น้ำภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการองค์กรและการสร้างและขยายการยอมรับในวงกว้าง โดยมีพันธกิจหลัก คือ

1. บริหารจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

2. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

3. บริการวิชาการและให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการน้ำ

4. จัดทำแผนยุทธศาสตร์เสนอภาครัฐ (ข้อมูลจาก War Room)

?นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์และพันธ-กิจหลักตามที่ได้เรียนเบื้องต้น ประกอบกับทรัพยากรน้ำเป็นทรัพยากรที่เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาต่างๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของประชากรและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพ-ภูมิอากาศส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำมากขึ้นทุกปี จึงอาจจะก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งสถาบันน้ำ ฯ ได้พิจารณาและเล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว ในการส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน และสำหรับภาคอุตสาหกรรม ถือได้ว่าเป็นภาคการผลิตที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และน้ำถือว่าเป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญยิ่ง โดยหลายภาคส่วนได้พยายามพัฒนาหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นที่จะต้องมีแนวทางการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการที่สามารถตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาอุปสรรคของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแต่ละพื้นที่ได้ การให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีภาคอุตสาหกรรมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน โดยการแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ ซึ่งต้องเกิดจากการบริหารจัดการโดยบุคลากรที่มีศักยภาพ และมีความรู้ ความสามารถ จึงได้มีแนวคิดร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน โดยจะเห็นได้ว่าพื้นที่ภาคกลางเป็นพื้นที่ที่มีสถานประกอบการอุตสาหกรรมหนาแน่น มีเงินลงทุนสูง และมีผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลัก จึงควรเน้นให้ความสำคัญในการดำเนินงานในพื้นที่ภาคกลางก่อน แล้วจึงค่อยขยายผลต่อไปให้ครอบคลุมในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศต่อไป

?พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การดำเนินโครงการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมแบบบูรณาการและมีส่วนร่วม จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำ และตอบสนองความต้องการของแต่ละพื้นที่ได้อย่างตรงจุด เนื่องจากผ่านกระบวนการรับฟังข้อมูล และข้อคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ เพื่อนำมาใช้พัฒนาแนวทางในการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน และยังช่วยส่งเสริมและสนับสนุนภาครัฐให้มีข้อมูลหรือมีแนวทางที่สามารถนำไปใช้ประกอบการวางนโยบายหรือแผนยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมต่อไป โดยโครงการนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) พ.ศ. 2556 - 2561 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Growth) ในประเด็นหลักที่ 21 การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการบริหารจัดการน้ำ โดยเน้นการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการบริหารจัดการน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินอย่างบูรณาการ มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และยั่งยืน ซึ่งมีเป้าประสงค์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เป้าหมายมีแหล่งน้ำที่มีการอนุรักษ์ ปรับปรุง ฟื้นฟูและพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่มีปริมาณเพียงพอโดยการมีส่วนร่วม โดยมีกลยุทธ์ที่สำคัญของกระทรวงฯ คือ การสร้างกลไกการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ให้มีการใช้ทรัพยากรน้ำเป็นฐานในการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนรวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายน้ำ บูรณาการน้ำผิวดิน ใต้ดิน และกำหนดมาตรฐานพัฒนาระบบน้ำสะอาด สำหรับงานสัมมนาในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินโครงการ และแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมอย่างบูรณาการ จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในส่วนกลางและที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายของโครงการนี้ ในการผลักดันโครงการ เสนอแนะ และจากข้อเสนอแนะของโครงการที่ท่านเห็นว่ามีความเหมาะสมสำหรับนำไปสู่การปฎิบัติ เพื่อให้การดำเนินโครงการสามารถแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของพื้นที่ได้อย่างแท้จริง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลลัพธ์และผลผลิตจากการดำเนินโครงการนี้ จะสามารถนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนการบริหารจัดการน้ำของประเทศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น