มาสด้าร่วมสนับสนุนโครงการ “ก้าวคนละก้าว” หนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่โลกต้องจารึก

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดมาสด้า ที่เดินทางไปต้อนรับคุณตูนถึงจังหวัดเชียงราย กล่าวด้วยความปลื้มปิติว่า โครงการของคุณตูนนั้นยิ่งใหญ่ไม่ใช่ยิ่งใหญ่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ถือว่ายิ่งใหญ่ระดับโลก เพราะเป็นเรื่องราวของมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ยอมอุทิศตนเพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับมวลมนุษยชาติ มาสด้ามองเห็นความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริงของคุณตูน ที่กำลังสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้า ถึงแม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นานัปการแต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ไม่เคยท้อถอย เฉกเช่นเดียวกับพวกเราชาวมาสด้าและชาวฮิโรชิมาแหล่งกำเนิดของมาสด้า แหละนี่คือสปริตรที่เราทุกคนต่างภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับการที่มาสด้าได้มีส่วนร่วมและช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทย

เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ชาวไทยทุกคน รวมทั้งผู้คนทั่วโลก ต้องจดจำไปอีกตราบนานเท่านาน นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา นายอาทิวราห์ คงมาลัย ได้เริ่มต้นออกวิ่งครั้งประวัติศาสตร์กับระยะทาง 2,191 กิโลเมตร เป็นระยะเวลารวมทั้งสิ้น 55 วัน ออกจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา สุดเขตชายแดนทางตอนใต้สุดของประเทศไทย เพื่อมุ่งหน้าขึ้นสู่ชายแดนเหนือสุดที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยที่ไม่ได้มีอะไรรอเขาอยู่ที่เส้นชัย และเขาก็ไม่ได้วิ่งเพื่อตนเอง แต่เขากำลังวิ่งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยหลายๆ คน ด้วยด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อระดมเงินบริจาคครั้งใหญ่มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือโรงพยาบาล 11 แห่งในประเทศไทย และถ้าคนไทยช่วยกันบริจาคเพียงคนละ 10 บาท นอกจากจะระดมทุนเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลในประเทศไทยแล้ว อีกจุดประสงค์คือให้คนไทยหันมาออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

สิ่งที่น่าสนใจไปมากไปกว่าเส้นทางการวิ่งและเป้าหมายของการระดมทุนของคุณตูน ก็คือ ความจริงที่ว่าคุณตูนไม่ใช่นักวิ่งมาราธอนมืออาชีพ เขาเป็นนักร้องนำของวงร็อกระดับแนวหน้าของประเทศ "บอดี้สแลม" และคุณตูนเองก็เป็นร็อกเกอร์ชื่อดัง แต่เขาเป็นคนที่ใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพและหลงใหลในการวิ่ง และสิ่งนี้เองที่ทำให้เขาตัดสินใจออกเดินทางครั้งสำคัญในครั้งนี้ การกระทำของคุณตูนสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก และคุณตูนแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ากีฬาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้อย่างแท้จริง

ด้วยวิสัยทัศน์ของมาสด้าที่เล็งเห็นความสำคัญของการตอบแทนสังคม มาสด้าได้นำเสนอสาระอันเป็นประโยชน์ของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทั้งเป็นตัวอย่างในการทำงานและดำเนินชีวิต หวังพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย และผลักดันแนวคิดตามพระราชดำริเพื่อเป็นแนวทางสานต่อสู่ชุมชนในภูมิภาค ด้วยการสร้างสรรค์รายการผ่านสื่อโทรทัศน์ภายใต้ชื่อ FootSteps By MAZDA ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทุกวันอาทิตย์ รวมถึงการเดินหน้าผลักดันแผนพัฒนากีฬาควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของทีม "นครราชสีมามาสด้า เอฟซี" เพื่อช่วยยกระดับการพัฒนาด้านกีฬาและสังคม ดังนั้นในปีนี้มาสด้าจึงสืบต่อวิสัยทัศน์นี้ด้วยการสนับสนุนโครงการก้าวคนละก้าว

นายธีร์ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า มาสด้ายังคงตอกย้ำจุดยืนตัวเองอย่างชัดเจนในเรื่องของการตอบแทนสังคม และในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่เราได้เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกครั้ง ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นกิจกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนในชาติต่างให้ความสนใจ จนเกิดเป็นกระแสในประเทศที่ปลุกให้ทุกคนตื่นตัวในดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่ง ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่ทุกคนสามารถทำได้

มาสด้าร่วมสนับสนุนโครงการ "ก้าวคนละก้าว" ด้วยกาสนับสนุนรถยนต์มาสด้า จำนวน 6 คัน ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มออกวิ่ง ประกอบด้วย มาสด้า2 เครื่องยนต์คลีนดีเซล จำนวน 1 คัน, มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 4 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกทีมงานสำหรับลากรถบ้านที่ต้องเดินทางกับคณะตลอดการเดินทางกว่า 2,000 กิโลเมตร และรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์ 5 จำนวน 1 คัน สำหรับรถทีมงานถ่ายทอดสดและบันทึกภาพแห่งประวัติศาสตร์ ที่สำคัญรถยนต์ขนาดเล็กอย่างมาสด้า2 ได้ถูกใช้เป็นรถที่ติดตั้งนาฬิกาเพื่อจับเวลาลงบันทึกใน Guinness World Record เนื่องจากมาสด้า2 เป็นเครื่องยนต์คลีนดีเซลที่ปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 มิลิกรัม ทำให้ไม่ก่อมลพิษขณะที่นักวิ่งต้องวิ่งตามขบวน นอกจากนี้มาสด้ายังได้นำคณะสื่อมวลชนออกร่วมวิ่งไปกับคุณตูน บอดี้สแลมในเส้นทางหนึ่งด้วย ยิ่งไปกว่านั้นมาสด้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศยังได้พร้อมใจกันร่วมบริจาคเงินให้กับโครงการก้าวคนละก้าวอีกด้วย พร้อมกันนี้โชว์รูมมาสด้าสินธานี สาขาบ้านดู่ จังหวัดเชียงรายได้รับเยรติเป็นอย่างสูงจากคุณตูนให้เป็นจุดแวะพักใหญ่ก่อนที่จะมีการวิ่งต่อไปยังอำเภอแม่สายอีกด้วย

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจในฐานะบริษัทหนึ่งในประเทศไทยที่ได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดถึงเจตนารมณ์และวิสัยทัศน์ที่มาสด้าได้ตั้งไว้เพื่อให้แบรนด์มาสด้าเป็น แบรนด์ที่จะอยู่คู่กับคนไทยตลอดไปอย่างยั่งยืน