อมุนดิชี้แนะแนวทางการลงทุน ปี 2561

ศุกร์ ๑๙ มกราคม ๒๐๑๘ ๑๖:๔๕
บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน อมุนดิ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้จัดการทรัพย์สินอันดับ 1 ในยุโรป และเป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกของโลก

นายอิรีค มิช้อท (Mr. Eric Mijot) หัวหน้าฝ่ายวิจัย กลยุทธ์หุ้น อมุนดิ ฝรั่งเศส กล่าวว่าในปี 2561 อมุนดิแนะแนวทางการลงทุน 4 ธีม คือ

- ธีมการลงทุนเพื่อตอบรับเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (Upturn in inflation) ควรเพิ่มน้ำหนักในบริษัทที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าได้ดี เช่น บริษัทที่ขายสินค้าฟุ่มเฟือย (luxury brand) หรือบริษัทด้านการเงินที่จะได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยที่

- ธีมการลงทุนเพื่อตอบรับการลงทุนที่สูงขึ้น แม้ว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตและผลการดำเนินงานของบริษัทจะดีแม้ไม่แข็งแกร่งเท่าปีที่แล้ว นักลงทุนควรคงการลงทุนในหุ้นที่เติบโตแปรผันตามเศรษฐกิจ (cyclical ) ไว้บ้าง ไม่ควรเปลี่ยนไปลงทุนในหุ้นเชิงรับ (defensive stock) เร็วเกินไป

- มองหาหุ้นที่มีคุณภาพ (Look for quality) หุ้นเติบโตทั่วโลกราคาแพงขึ้นอันเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และสภาพคล่องล้น ดังนั้นนักลงทุนควรมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่มีการใช้เงินกู้ในระดับต่ำและราคายังไม่แพง

- ระมัดระวังในเรื่องสภาพคล่อง แม้ว่าผลประกอบการสำหรับหุ้นขนาดเล็กในยุโรปและญี่ปุ่นจะแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา แต่ในกรณีของบริษัทขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกา การปฏิรูปภาษีอาจจะไม่ได้ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กที่พึ่งพิงการบริโภคในประเทศเติบโตได้เหมือนเดิม เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดอาจลดลงอีกทำให้บริษัทเหล่านี้ได้ไม่ได้อานิสงค์จากดอกเบี้ยต่ำอีกต่อไป

โอกาสการลงทุน

ในปี 2561 นี้ ภูมิภาคที่น่าสนใจได้แก่ประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย หลัก ๆ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

3 เหตุผลที่ทำให้เรามองว่า 3 ประเทศนี้น่าสนใจคือ 1) คุณภาพที่ไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในที่เดียว แต่กระจายทั่วประเทศ 2) การหลอมรวมกันของปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และสภาพคล่อง และในด้านปัจจัยพื้นฐานมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เทียบกับประเทศเกิดใหม่อื่น ๆ ในโลก ส่วนจีน หลังจากที่ตลาดหุ้นร้อนแรงในปีที่แล้ว ราคาจึงค่อนข้างแพง อย่างไรก็ตามกระบวนการปฏิรูปที่ยังคงต่อเนื่องจะทำให้ภาพของตลาดปรับดีขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนในหลาย ประเทศในเอเชียค่อนข้างแข็งเกินความจริง

เรายังคงเชื่อมั่นในประเทศ ยุโรป ตะวันออกกลางและ อัฟริกา (EFEA) โดยเฉพาะ ตุรกี และอัฟริกาใต้ ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นยังแข็งแกร่งและการเติบโตยังคงต่อเนื่อง ประเทศอัฟริกาใต้มีผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งและราคายังไม่แพง การเติบโตแม้จะยังอ่อนแอแต่ปรับตัวดีขึ้น และนโยบายการคลังที่ไม่แข็งแรงนัก ในขณะที่ตุรกีราคายังไม่แพงและมีอัตราการทำกำไรที่สูงและอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจตามวัฏจักรในปีนี้จะทำให้มีการขยายตัวทางด้านการคลังและเพิ่มการอัดฉีดด้านการเงิน ซึ่งการอัตราเงินเฟ้อจึงยากที่จะเพิ่มเป็นตามที่ธนาคารกลางตั้งเป้าไว้

ส่วนประเทศในลาตินอเมริกา เราค่อนข้างระมัดระวัง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นแต่ตลาดหุ้นที่ร้อนแรงทำให้ราคาหุ้นค่อนข้างแพง ยกเว้น Mexico ถ้ามีการปรับตัวของตลาดอาจจะทำให้น่าสนใจขึ้น

นายโฮว์ ชาง วาน (Mr. Howe Chung WAN) หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้เอเชีย อมุนดิ สิงคโปร์ กล่าวว่าตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีจากทั้งภาพรวมที่แข็งแกร่งและผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัททำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศเป็นบวก และมีอัตรากำไรที่ดูดี อัตราเงินเฟ้อในตลาดเกิดใหม่ยังอยู่ในภาวะเหมาะสม คือไม่สูงหรือไม่ต่ำเกินไป ในช่วงที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้เกิดใหม่มีการขยายตัวมากขึ้น มีผู้ออกตราสารมากขึ้น และในขณะเดียวกันมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ตลาดน่าสนใจลงทุนมากขึ้นเนื่องจากผู้ลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นได้จากการมีตราสารให้เลือกลงทุน (Security Selection) มากขึ้น

ตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปีนี้เช่นกันตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่น่าจะให้ผลตอบแทนได้ดีอีก ในปีนี้ดูเหมือนนักลงทุนจะให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามากกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เพราะหากการปฏิรูปมาตรการภาษีของทรัมป์ได้ผล ธนาคารกลางของสหรัฐ หรือ Fed อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น นักลงทุนจึงมองหาการลงทุนระยะสั้นเพราะการถือบอนด์ตัวสั้นจะปลอดภัยในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เราให้สัมภาษณ์นี้เรายังเห็นการไหลเข้าของเงินทุนมาในตลาดตราสารหนี้เกิดใหม่ยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ควรจับตามองคือ ความตึงเครียดในด้านการเมืองอาจจะมีผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้ และราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะมีผลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย เราคิดว่าการคัดเลือกตราสารที่ลงทุนจะมีความสำคัญมากขึ้น การลงทุนโดยมีการวิเคราะห์ผู้ออกตราสารอย่างมีความเข้าใจถ่องแท้ถึงสถานะของผู้ออกจะช่วยลดความเสี่ยงได้

การลงทุนในตราสารหนี้เกิดใหม่ในสกุลเงินหลัก (Hard Currency) น่าจะให้ผลตอบแทนประมาณของเลขตัวเดียวช่วงกลาง ๆ และหากลงทุนตราสารหนี้เกิดใหม่ในสกุลเงินท้องถิ่นน่าจะให้ผลตอบแทนประมาณเลขตัวเดียวช่วงปลาย ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง