บล.คันทรี่ กรุ๊ป จับมือ Smartkarma มุ่งงานวิเคราะห์เกรดพรีเมี่ยมเพื่อลูกค้า ก้าวสู่มาตรฐานยุโรป MiFID II เป็นรายแรกของไทย

อังคาร ๒๖ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๓๔
"บล. คันทรี่ กรุ๊ป" จับมือ "Smartkarma" ผู้ให้บริการงานวิจัยรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย ผลิตงานวิเคราะห์เกรดพรีเมี่ยม โดยมีข้อมูลเชิงลึกจาก A. Stotz ก้าวสู่โบรกเกอร์ไทยมาตรฐานยุโรป MiFID II เป็นรายแรก ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่สร้างสรรผลงานโดยนักวิเคราะห์อิสระกว่า 400 รายได้ก่อนใคร

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ Smartkarma ผู้ให้บริการงานวิจัยการลงทุนอิสระรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพื่อนำเสนอบทวิเคราะห์ให้สอดคล้องกับ MiFID II (The Markets in Financial Instruments Directive II : เกณฑ์กำกับดูแลเพื่อลดความเสี่ยงระบบ เพิ่มความโปร่งใสของตลาด และเพิ่มระดับปกป้องผู้ลงทุน) เป็นระเบียบใหม่ในยุโรปที่จะเริ่มใช้ในเดือนมกราคมปี 2561 ที่จะถึงนี้ ซึ่งบริษัทสินทรัพย์ทั่วโลกต่างเตรียมความพร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานนี้

ระบบการวิจัยที่เป็นอิสระของ Smartkarma นับเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าสถาบัน นักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยลูกค้าของ CGS จะสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเชิงลึกด้านการวิจัยในเอเชียซึ่งผลิตโดยนักวิเคราะห์อิสระกว่า 400 ราย

อีกทั้งบทวิเคราะห์ของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ที่ร่วมกับ Smartkarma ถือเป็นบทวิเคราะห์เกรดพรีเมี่ยม ลงรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกจาก A. Stotz (แอนดรู สต๊อซ : ผู้ให้คำแนะนำและบริการจัดพอร์ตการลงทุนระดับสากล) ที่มีการจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาใช้ในการวิเคราะห์ตลาดทุนไทยได้อย่างอิสระตามวิธีการวัดมาตรฐานระดับโลก

"ลูกค้าของ บล.คันทรี่ กรุ๊ป จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากข้อมูลเชิงลึกที่เป็นอิสระและมีคุณภาพสูงจากความร่วมมือของเรากับ Smartkarma และบทวิเคราะห์เชิงลึกของ A. Stotz ซึ่งถือเป็นโบรกเกอร์รายแรกของประเทศไทยที่พร้อมเข้าสู่ MiFID II อันเป็นเกณฑ์การปฏิบัติที่ดีที่สุดในโลก" นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการ บล. คันทรี่ กรุ๊ป กล่าว

ด้าน มร. ราคาฟ กะปูร์ (Raghav Kapoor) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Smartkarma กล่าวว่า "ทาง Smartkarma รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์คันทรี่กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ฯ ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ MiFID II เป็นอย่างดี มีการบริหารจัดการระบบลูกค้าได้อย่างชัดเจนทำให้สะดวกต่อการนำเสนอข้อมูลงานวิจัยได้เหมาะสมต่อความต้องการ"

"พวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ บล. คันทรี่ กรุ๊ป และเราก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ A.Stotz Research ที่ สามารถรวมข้อมูลนี้เข้ากับการวิจัยไทยผ่านทางแพลตฟอร์ม Smartkarma เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดี" ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Smartkarma กล่าว

ทั้งนี้ Smartkarma เพิ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนด้าน Series B จาก Sequoia Capital India ซึ่งเป็นหนึ่งใน บริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก โดยรูปแบบของ Smartkarma มีทั้งนักวิเคราะห์วิจัยอิสระและนักลงทุนสถาบัน มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วทั้งเอเชียและเพิ่งประกาศการขยายธุรกิจไปยังสหราชอาณาจักรและยุโรปโดยมีการเปิดสำนักงานในกรุงลอนดอนด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๒๙ ม.กรุงเทพ เห็นถึงคุณค่าพลังงานที่ยั่งยืนเชิญผู้เชี่ยวชาญมาสร้างสกิลตรง
๑๖:๐๗ แอลจีเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 ผลักดันธุรกิจด้วยนวัตกรรมพร้อมรักษาสมดุลระหว่างธุรกิจหลักและการเติบโตในอนาคตเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ
๑๖:๓๕ ฮั้วฟง รับเบอร์ฯ (HFT) จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2567 ผถห.โหวตผ่านฉลุยทุกวาระ
๑๖:๕๒ ซีเอ็ด เปิดสาขาใหม่ที่ตราด! บริจาคหนังสือ 2 แสนบาท หนุนการอ่านในท้องถิ่น
๑๖:๕๙ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งปีที่อัตราหุ้นละ 0.52
๑๖:๕๙ ปรับการนอนหลับของคุณให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วยฟีเจอร์ใน HUAWEI Band 9
๑๖:๓๔ ไฮเออร์ ประเทศไทย โชว์ศักยภาพแกร่ง พาเหรดทัพนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมจัดแสดงในงาน China Enterprise Product Resources
๑๖:๑๐ สถานทูตอิตาลี เปิดศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าแห่งใหม่ในกรุงเทพ
๑๖:๕๒ CHAYO จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ไฟเขียวทุกวาระ
๑๖:๑๓ ผู้บริหารบางจากฯ แชร์แนวทางขับเคลื่อนการรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศ 2 เวที