กรมปศุสัตว์เดินหน้าพัฒนาภาคปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่ ยกอุตสาหกรรมไก่เนื้อปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะตกค้าง-ไร้ฮอร์โมนเร่งโต เป็นต้นแบบ

จันทร์ ๒๙ มกราคม ๒๐๑๘ ๑๔:๔๖
กรมปศุสัตว์ เดินหน้ายกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ชูการพัฒนาอุตสาหกรรมไก่เนื้อ ไม่มียาปฏิชีวนะตกค้าง ไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งโต เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งไทยและตลาดโลก

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์และโฆษกกรมปศุสัตว์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย (Food Safety) ว่า กรมปศุสัตว์ขานรับนโยบายของรมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยร่วมกับเกษตรกรและผู้ประกอบการในภาคปศุสัตว์ พัฒนาระบบการเลี้ยงในฟาร์มมาตรฐาน โรงงานอาหารสัตว์มาตรฐานสากล เข้าชำแหละในโรงงานแปรรูปที่ถูกสุขอนามัย ตลอดจนการพัฒนาจุดจำหน่ายเนื้อสัตว์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างความสำเร็จของอุตสาหกรรมไก่เนื้อ ที่มีการพัฒนาอย่างจริงจังมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน กรมปศุสัตว์ได้เพิ่มมาตรการ และความเข้มงวดในการตรวจสอบทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการผลิตไก่ โดยเฉพาะการใช้ยาสัตว์ ที่มีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มเป็นผู้ตรวจสอบและกำกับการใช้ยาอย่างเคร่งครัด ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าไก่เนื้อที่เลี้ยงในระบบฟาร์มมาตรฐาน ไม่มียาปฏิชีวนะตกค้าง ไม่มีการใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตอย่างแน่นอน

"ที่ผ่านมายังมีผู้เข้าใจผิดเรื่องการใช้ยาสัตว์รวมถึงฮอร์โมนเร่งโตในไก่เนื้อ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากจะมีสัตวแพทย์ผู้คงบคุมฟาร์มทำหน้าที่ดูแลแล้ว กรมปศุสัตว์ยังเน้นย้ำการเฝ้าระวังและสุ่มตรวจฮอร์โมนและสารตกค้างในเนื้อสัตว์ปีกเป็นประจำ โดยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ท้องที่ต้องอนุญาตก่อนที่จะมีการนำไก่เข้ากระบวนการแปรรูป และจากรายงานของสำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ ในช่วงปี 2553–2560 ที่มีการสุ่มตัวอย่างสัตว์ปีก 2,543 ตัวอย่าง ไม่เคยพบฮอร์โมนตกค้างแม้แต่ตัวอย่างเดียว" โฆษกกรมปศุสัตว์ กล่าวและว่า

ที่สำคัญประเทศไทยมีกฎหมายห้ามการใช้สารเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยง โดยสัตว์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ 417 /2528 ลงวันที่ 23 กันยายน 2529 ให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาสำหรับสัตว์ Hexoestrol ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ใช้ในสัตว์ปีก หากมีการลักลอบใช้ถือว่าผิดกฎหมาย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่อุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยจะใช้สารเร่งการเจริญเติบโต เพราะผิดทั้งกฎหมายของไทย และขัดต่อข้อบังคับของสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญ ขณะเดียวกันการเลี้ยงไก่มีการพัฒนามาโดยตลอด ทำให้มีพันธุ์สัตว์ที่ดี มีอาหารสัตว์คุณภาพ เลี้ยงในโรงเรือนปิดใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย การจัดการร่วมกับการดูแลด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่ดี มีระบบการป้องกันโรคที่เข้มงวด ทำให้ไก่เนื้อเติบโตเร็วโดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งใดๆ ที่สำคัญการเลี้ยงไก่มีมาตรฐานเดียวกัน ทั้งสำหรับการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก ผู้บริโภคจึงมั่นใจในคุณภาพของไก่เนื้อปลอดภัยไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งโต

จากจุดแข็งของไทยที่มีผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่ปลอดภัย ปลอดสาร ไม่มีการใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ไม่มียาปฏิชีวนะตกค้าง ทำให้เนื้อไก่ของไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากบราซิล สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปตามลำดับ โดยมีประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญคือ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง