ผู้ลงทุนเฮ! รับวาเลนไทน์ KAsset จ่ายปันผล 3 กองทุนหุ้นไทย รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

ศุกร์ ๐๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๕:๑๘
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้น 3 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 - 31 มกราคม 2561 ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE) ในอัตรา 0.55 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าว 2 (RKF2) ในอัตรา 0.80 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดรวงข้าว 4 (RKF4) ในอัตรา 0.46 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2561 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 305.92 ล้านบาท

ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นที่มีการจ่ายปันผลในครั้งนี้ นางสาวธิดาศิริกล่าวว่า กองทุน K-VALUE นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 23 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 10.12 บาทต่อหน่วย โดยกองทุนมีอัตราการจ่ายปันผลประมาณ 10.99% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา* ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 17.97% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) ซึ่งอยู่ที่ 17.27% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 22.89% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 19.53% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.61) โดยกองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายปันผลสม่ำเสมอในอัตราที่สูงกว่าตลาด และมีมูลค่าทางปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม

ด้านกองทุน RKF2 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 27 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 20.64 บาทต่อหน่วย โดยกองทุนมีอัตราการจ่ายปันผลประมาณ 10.28% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา* สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 19.10% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) ซึ่งอยู่ที่ 17.27% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 23.72% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 19.53% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.61) ด้านกองทุน RKF4 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 22 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 9.53 บาทต่อหน่วย โดยกองทุนมีอัตราการจ่ายปันผลประมาณ 7.85% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา* และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 17.02% ใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 17.27% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 18.85% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 19.53% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.61) สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของกองทุน RKF2 และกองทุน RKF4 เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี และได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นหุ้นกลุ่มที่แนวโน้มผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง

สำหรับมุมมองด้านการลงทุนและเศรษฐกิจภายในประเทศ นางสาวธิดาศิริกล่าวว่า "บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2561 นี้ โดยปัจจัยขับเคลื่อนมาจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งนอกเหนือไปจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ยังคงมีทิศทางที่ดีแล้ว เราคาดว่าการบริโภคและการลงทุนจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยส่วนหนึ่งได้แรงสนับสนุนมาจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลเพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคมของประเทศที่ได้มีการประมูลไปในปีก่อนหน้า ตลอดจนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เริ่มมีความคืบหน้า ทำให้นักลงทุนต่างชาติรวมถึงภาคเอกชนมีความความมั่นใจต่อการลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.50% เนื่องจากสภาพคล่องในระบบยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของปีมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจมีการทบทวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐมีการปรับขึ้นเร็วและแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ รวมถึงปัจจัยที่ผู้ลงทุนจะต้องติดตามในช่วงครึ่งปีหลังคือ ความกังวลเรื่องสภาพคล่องในระบบของโลกที่จะเริ่มลดลงในปีถัดไป หากเป็นไปตามกำหนดจะเห็นว่าในปีหน้าธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเริ่มถอนสภาพคล่องออกจากตลาดเช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐ"

นางสาวธิดาศิริกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทยมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปี 2561 อยู่ที่ระดับ 1,850 จุด บนปัจจัยพื้นฐานที่ระดับ P/E ปี 2561ที่ประมาณ 16.5 เท่า จากการประมาณการณ์อัตราการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ที่ 10% และผลตอบแทนจากเงินปันผลอีกประมาณ 3% ทั้งนี้ ธีมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ บลจ.กสิกรไทยยังคงเน้นกลยุทธ์การลงทุนโดยการคัดเลือกหุ้น (Stock Selection) ที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐที่เน้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและการสนับสนุนการลงทุนผ่านโครงการ EEC อาทิ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศและภาคการท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงแรม เป็นต้น

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-VALUE กองทุน RKF2 และกองทุน RKF4 สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888

หมายเหตุ : *ข้อมูลจาก Bloomberg ณ 5 ก.พ. 61

กองทุน รอบผลการดำเนินงาน อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)

K-VALUE 1 สิงหาคม 2560 - 31 มกราคม 2561 0.55

RKF2 1 สิงหาคม 2560 - 31 มกราคม 2561 0.80

RKF4 1 สิงหาคม 2560 - 31 มกราคม 2561 0.46

คิดจากNAV วันที่ 31 มกราคม 2561

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน