PDI โชว์งบปี”60 กำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 10 ปี บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI) โชว์ผลงานปี 60 กำไรสุทธิ 905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% ทำสถิติสูงสุด

ศุกร์ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๖:๐๔
ฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI เปิดเผยว่า ปี 2560 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีมาก โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 6,357 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยมีจำนวน 905 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 89 เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีผลกำไรสุทธิ 478 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการดำเนินงานด้านการตลาดที่เข้มแข็ง ประกอบกับราคาโลหะสังกะสีโลกในปี 2560 ที่ปรับตัวสูงกว่าระดับ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และค่าพรีเมียมจากการขายในประเทศที่ยังคงดีอยู่ โดยราคาเฉลี่ยโลหะสังกะสีโลกทั้งปี 2,884 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยของปี 2559 ที่ 2,091 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

"ผลประกอบการปี 2560 ดีกว่าที่ได้คาดหมายไว้มาก โดยเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี และสูงสุดเป็นอันดับสามในรอบ 33 ปีของบริษัทฯ สาเหตุมาจากราคาโลหะสังกะสีโลกในปี 2560 ที่ปรับตัวสูงมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และทำกำไรได้อย่างเต็มที่จากสต็อกโลหะสังกะสีที่ผลิตจากแร่เหมืองแม่สอดที่มีต้นทุนต่ำมากที่มีอยู่จำนวนกว่า 30,000 ตัน ซึ่งได้กระจายการจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศ นอกจากนี้ PDI ยังสามารถบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับรู้รายได้มากขึ้นจากธุรกิจใหม่ด้านพลังงานทดแทนเป็นครั้งแรก" ฟรานซิส กล่าว

ในปีที่ผ่านมา PDI ได้บรรลุผลสำเร็จตามแผนการยุติธุรกิจสังกะสีในกระบวนการผลิตแบบเดิมก่อนปรับสู่ธุรกิจเทรดดิ้งโลหะสังกะสีแบบเต็มตัวในปีนี้ รวมทั้งเดินหน้ามุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้กลุ่มธุรกิจด้านพลังงานมีความคืบหน้าไปมาก ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและวัสดุรีไซเคิลเพิ่งจะเริ่ม รวมถึงการเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจก็อยู่ในการพิจารณาลงทุนของบริษัทฯ เช่นกัน

ข้อมูลทั่วไป

บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือเรียกย่อว่า พีดีไอ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2524 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 2,260 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจเหมืองและถลุงแร่สังกะสีมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ในปี 2557 บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เพื่อยกระดับขึ้นสู่ "อุตสาหกรรมสีเขียว" ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจัดโครงสร้างธุรกิจเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี ดำเนินธุรกิจจัดหาพลังงานจากพลังงานทดแทนเป็นหลัก 2.พีดีไอ แมททีเรียล ดำเนินธุรกิจจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากการรีไซเคิล และ 3.พีดีไอ อีโค ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๔ ยันม่าร์ ประกาศอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนสมาคมฟุตบอลอาเซียน
๑๗:๑๔ รู้ใจชวนทำความรู้จักเทเลเมติกส์ เทคโนโลยีลดอุบัติเหตุ ขับเคลื่อนท้องถนนปลอดภัย
๑๗:๐๙ The Food School Bangkok ผนึก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ มอบทุนกว่า 1.5 ล้านบาท เปิดตัว Future Chef of the World 2025
๑๗:๓๔ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
๑๗:๑๗ JGAB 2025 เปิดเวที The Next Gem Awards 2025 เฟ้นหาดีไซน์เนอร์เครื่องประดับรุ่นใหม่
๑๖:๐๙ ผถห. LEO ไฟเขียวปันผล 0.14 บาท/หุ้น รับทรัพย์ 14 พ.ค.นี้ เดินหน้ายุทธศาสตร์ LEO Go Green - รุกขยายธุรกิจใหม่ ดันกำไรขั้นต้นโตต่อเนื่อง
๑๖:๕๗ เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ เปิดตัวโซลูชันคลังสินค้าและโลจิสติกส์อัจฉริยะ ยกระดับการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB)
๑๖:๔๖ กระทรวง อว. โดย สวทช. - กรมควบคุมโรค กระทรวง สธ. ผนึกกำลังใช้ระบบ DDC-Care Platform เทคโนโลยีรับมือโรคระบาดข้ามพรมแดน
๑๖:๕๙ สจล. ร่วมมือมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมอาชีพครอบครัวคนพิการอย่างยั่งยืน
๑๖:๓๕ KOAN ในเครือ CPW บุกตลาด Smart Home เปิดตัวนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะในงานสถาปนิก'68 ภายใต้แนวคิด Touch And