ธนาคารเกียรตินาคิน ชูโมเดลใหม่ “KK Magic Mirror” นำเทคโนโลยีส่งต่อบริการ - สะท้อนจุดแข็งอีกระดับแห่งการลงทุน

อังคาร ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๔:๕๖
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เดินหน้าสู่ธนาคารเพื่อการลงทุนในมิติใหม่ พร้อมชูโมเดลล่าสุด "KK Magic Mirror" นำเทคโนโลยีมาต่อยอดการให้บริการโดยยังคงรักษาเสน่ห์ของ Human Interaction เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิตัล และตอกย้ำแบรนด์แคมเปญอีกระดับแห่งการลงทุน โดยคาดว่าจะขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางดังกล่าวได้ราว 20%

ดร. อนุชิต อนุชิตานุกูล ประธานสายพัฒนาระบบงาน ช่องทางขายและผลิตภัณฑ์ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า กระแสเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นได้เข้ามาพลิกโฉมการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ (Disruption) รวมถึงอุตสาหกรรมการเงินในรูปแบบเดิม โดยได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจรูปแบบใหม่ในภาคการเงินเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นฟินเทค, พร้อมเพย์, Banking Agent หรือ e-Marketplace Platform (บริการซื้อขายออนไลน์แบบครบวงจร) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่งอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ทำ ซึ่งย่อมเพิ่มโอกาสให้กับธนาคารในการต่อยอดธุรกิจกับสถาบันการเงินด้วย

"ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ทุกธนาคารต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม ในส่วนของธนาคารเกียรตินาคินได้พัฒนาช่องทางการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนแบรนด์แคมเปญอีกระดับแห่งการลงทุน โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงสาขาและจุดบริการสำหรับลูกค้า ตอบโจทย์ด้านการเงินและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งชูจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรคือบุคลากรมืออาชีพในด้านการเงินการลงทุน โดยล่าสุดได้พัฒนานวัตกรรมการบริการที่เรียกว่า "KK Magic Mirror" กระจกวิเศษที่ช่วยให้การเงินเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วคลิก ซึ่งใช้เทคโนโลยีมาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับธนาคารในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุด (Human Interaction) โดยถือเป็นประสบการณ์ใหม่เพราะเป็นการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินผ่านจอ LED แบบ Interactive ครั้งแรกของประเทศไทย ทั้งนี้ บริการของ KK Magic Mirror แบ่งได้

เป็น 2 รูปแบบ แบบแรก คือการโต้ตอบกับพนักงานเสมือนจริง โดยเพียงตอบข้อมูลทางการเงิน 2 คำถาม ระบบจะสรุปแนวทางการวางแผนการลงทุนเบื้องต้นในรูปแบบเฉพาะบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการลงทุนอย่างเต็มรูปแบบที่สาขาธนาคารต่อไป แบบที่สอง คือการพูดคุยกับกูรูทางการเงินจากกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรในรูปแบบ Live Video Call ในช่วงกิจกรรมพิเศษ เพื่อตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการ หรือนอกจากช่วงกิจกรรมพิเศษ ลูกค้าก็สามารถติดต่อกับพนักงานได้ทันทีเพื่อซักถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการผ่าน Live Video Call ได้เช่นกัน โดย KK Magic Mirror แตกต่างจากเครื่องมือด้านการเงินทั่วไปที่มักมีลักษณะเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่KK Magic Mirror ถูกออกแบบมาให้พูดคุยโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้เหมือนกำลังสื่อสารกับมนุษย์จริงเพื่อสร้างความรู้สึกที่เป็นมิตรและเข้าถึงง่าย" ดร. อนุชิต กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารมั่นใจว่า KK Magic Mirror จะเป็นช่องทางเข้าถึงที่ปรึกษาทางการเงินขั้นพื้นฐาน และช่วยให้ผู้สนใจด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สะดวกเข้าไปรับบริการที่สาขาธนาคาร ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่ผ่าน KK Magic Mirror ได้ใน 5 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน สาขาอโศก ศูนย์การค้าสยาม พารากอน ศูนย์การค้าเค วิลเลจ ศูนย์การค้าซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ และ อาคารซีพี ทาวเวอร์ 1 สีลม ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KK Contact Center โทร. 02 165 5555 หรือ www.kiatnakin.co.th

"KK Magic Mirror นับเป็นอีกหนึ่งระดับของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดไปสู่การขยายฐานลูกค้า หลังจากนี้ ธนาคารยังมีแผนพัฒนาช่องทางการให้บริการและผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิตัลอีกอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่เริ่มติดต่อหรือทำธุรกรรมจากบนแพลตฟอร์มออนไลน์ร่วม 50,000 รายต่อปี โดยตั้งเป้าจะเพิ่มฐานลูกค้าในส่วนนี้อีกราว 20%" ดร.อนุชิต กล่าวทิ้งท้าย

อนึ่ง จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่าจำนวนธุรกรรมที่ประชาชนทำผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและตู้ ATM ลดลงจากประมาณ 41% ของธุรกรรมทั้งหมดในปี 2553 เหลือเพียง 17% ในปัจจุบัน ขณะที่ธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจากประมาณ 15% เป็น 66% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยสาเหตุที่ประชาชนหันมาทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้นมี 2 ประการ ได้แก่ หนึ่ง กระแสเทคโนโลยียุค 4.0 (Industry 4.0) ที่ทำให้การใช้โทรศัพท์มือถือและรูปแบบธุรกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) มีมากขึ้น และสอง การนำเสนอบริการพร้อมเพย์หรือการโอนเงินและรับโอนเงินที่ผูกบัญชีเงินฝากธนาคารเข้ากับหมายเลขบัตรประชาชนหรือโทรศัพท์มือถือตามโครงการ National e-Payment ของภาครัฐ ซึ่งช่วยลดทอนค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมูลค่าสะสมการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์ล่าสุด อยู่ที่ 4 แสนล้านบาท และมีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ของบุคคลธรรมดาแล้ว 37 ล้านบัญชี และของนิติบุคคลอีก 4.5 หมื่นบัญชี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง