บาทฟินเทคประกาศตัว นำเทคโนโลยีบล็อคเชนแก้ปัญหาการหลอกลวงการซื้อขายของออนไลน์ ลดค่าบริการเพิ่มความปลอดภัย เตรียมระดมทุนด้วย ICO จำนวน 300 ล้านเหรียญคริปโตฯ พร้อมจับมือ “แอดไวซ์” ประเดิมขายสินค้าไอทีผ่านสกุลเงินดิจิทัล

อังคาร ๒๐ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๔:๐๕
นายศักดา เกตุแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาทฟินเทค เปิดเผยว่า จากยอดการเติบโตของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการค้าขายออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ชในประเทศไทย ที่มีสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการหลอกลวงมากกว่า 30% ของยอดอีคอมเมิร์ชในช่วงที่ผ่านมา จนกลายเป็นปัญหาที่ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง เนื่องเพราะการซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ในรูปของไมโครเพย์เม้นท์ หรือยอดซื้อขายจำนวนน้อยไม่คุ้มค่ากับการฟ้องร้องหรือเอาผิดทางกฎหมาย โดยบริษัทได้คิดค้นระบบเงินดิจิทัลที่ปกป้องการซื้อขายออนไลน์ให้มีความปลอดภัยขึ้นมา

ระบบของบริษัท จะทำให้ผู้ซื้อผู้ขายได้ใช้จ่ายผ่าน "ไทยบาทดิจิทัล" เมื่อผู้ซื้อโอนเงินไปที่ผู้ขายผ่านระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล ระบบเงินจะถูกลด-เพิ่มจากบัญชี โดยบัญชีผู้ซื้อจะถูกตัด และขึ้นสถานะรอการยืนยันที่บัญชีผู้ขาย เช่นเดียวกับระบบเช็ครอการเคลียริ่ง เมื่อผู้ซื้อได้รับสินค้าตรงตามที่ตกลงกับผู้ขาย เงินไทยบาทดิจิทัลจะเข้าบัญชีผู้ขายโดยสมบูรณ์ แต่ถ้าเกิดข้อผิดพลาดทำให้การซื้อขายไม่สมบูรณ์ ระบบก็ะทำการคืนเงินให้กับผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ

"ระบบนี้จะดีกว่าการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต visa master card หรือ paypal แม้บัตรเครดิตผู้ซื้อจะนิยมเพราะได้สะสมแต้ม และสิทธิพิเศษอื่นๆ แต่ขณะเดียวกันกับมีการหักเงินฝั่งผู้ขาย 2-6% ในทุกธุรกรรม ซึ่งบริษัทเจ้าของบัตรเครดิตได้ส่วนแบ่ง 4% และให้คืนผู้ใช้บัตร 1% ซึ่งการซื้อของออนไลน์แบบบุคคลทั่วไปจะไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากสินค้าออนไลน์เป็นตลาดที่แข่งขันสูง กำไรต่ำ ส่วนใหญ่รับด้วยเงินสดหรือโอนเงิน ซึ่งมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมากของผู้ซื้อ แต่ขณะเดียวกันไทยบาทดิจิทัลคิดค่าธรรมเนียมแค่ 0.1% และเข้ามาจัดการความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทั้งระบบ" นายศักดา กล่าว

ระบบไทยบาทดิจิทัล ได้นำเทคโนโลยี Blockchain ที่กำลังได้รับความนิยมมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบทั้งหมด ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วมีต้นทุนต่ำ ปลอดภัยสูง และมีประสิทธิภาพอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเงินระดับโลกจะนำมาใช้ในธุรกิจของตนเองแล้ว อย่าง Paypal, JPMorgan เป็นต้น จากเดิมที่เคยใช้ระบบแบบรวมศูนย์ ซึ่งมีราคาแพงอย่างมาก เปลี่ยนมาเป็น Blockchain ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกับระบบไทยบาทดิจิทัล ส่งผลให้สามารถนำระบบค่าธรรมเนียมของธุรกรรมที่ต่ำมากมาให้บริการได้

ในปี 2561 นี้ ทางบริษัทคาดว่า จะมีการใช้ระบบไทยบาทดิจิทัลประมาณ 5% ของมูลค่าอีคอมเมิร์ชในประเทศไทย หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท และหากใช้ไทยบาทดิจิทัลจะทำให้ยอดการสูญเสียจากการหลอกลวงในอีคอมเมิร์ชลดลงถึง 100% เลยทีเดียว ส่วนในระยะยาวคาดว่าปริมาณการใช้ระบบไทยบาทดิจิทัลจะครอบคลุม 50% ของตลาดทั้งหมดภายใน 5 ปี

สำหรับเป้าหมายกลุ่มแรกๆ ที่จะเลือกใช้ระบบไทยบาทดิจิทัลคือ กลุ่มผู้ค้าอีคอมเมิร์ชจากบริษัทใหญ่ที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นทางด้านการซื้อขายให้กับลูกค้า โดยเฉพาะสินค้าที่มีวงเงินหลายพันบาทต่อชิ้น และไม่ต้องการพึ่งพาเว็บซื้อขายที่มีระบบเครดิตการชำระเงินที่ไม่เหมาะสม หลังจากนั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าไมโครเปย์เม้นท์ หรือการค้ารายย่อยที่ต้องการเงินหมุนเวียนสูงจะตามมา

ส่วนแผนการระดมทุนของบริษัทนั้น จะมีการระดมทุนด้วยการใช้ ICO ด้วยการออกเหรียญจำนวน 300 ล้านเหรียญ ในมูลค่าเริ่มต้นที่ 3 บาทต่อ 1เหรียญ จะมีการเปิดซื้อขายเหรียญในรอบพรีเซล 30 มีนาคมนี้ และขายผ่านตลาดเสรีตั้งแต่ 30 เมษายนเป็นต้นไป โดยจะใช้ผู้ตรวจสอบ หรือ Auditor ที่ดูแลการเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้จัดการซื้อขายครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้มาตรฐานการ ICO ของบริษัทเทียบเท่ากับการระดมทุนในตลาดปกติ คาดว่าภายใน 3 เดือนจะสามารถระดมทุนได้ตามที่บริษัทตั้งเป้าหมาย ซึ่งเงินลงทุน ICO ครั้งนี้จะนำมาเป็นเงินหมุนเวียนผ่านระบบไทยบาทดิจิทัลทั้งหมด

"เป้าหมายหลักของธุรกิจนี้คือ การเชื่อมโยงธุรกิจเข้ากับระบบการเงินสมัยใหม่ให้มีความปลอดภัย และเชื่อถือได้ โดยตัวบริษัทเองแม้จะระดมทุนด้วยเงินคริปโต แต่สุดท้ายแล้วบริษัท บาทฟินเทค ก็จะเข้าสู่ระบบการเงินปกติด้วยการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย" นายศักดา กล่าวสรุป

นายจักกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าบริหารสายงานการขายและการตลาดบริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท หรือ แอดไวซ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแอดไวซ์ขายสินค้าไอทีผ่าน "Advice Online" และได้สร้างหมวดสินค้าไอทีในการขายผ่านอีคอมเมิร์ชมากที่สุดในไทย การเป็นพันธมิตรกับ บาทฟินเทค ที่เข้ามาช่วยเรื่องระบบการชำระเงินสำหรับการสั่งซื้อสินค้า ถือเป็นครั้งแรกที่จะนำเงินคริปโตเคอเรนซี่มาใช้ในการซื้อขายสินค้าจริงในไทย เป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการซื้อสินค้าและรองรับการใช้สกุลเงินดิจิทัลไปพร้อมกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud