เรื่อง การปรับหลักเกณฑ์โครงการคลินิกแก้หนี้

จันทร์ ๒๓ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๖:๑๓
นางฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง* สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ โดยการสนับสนุนของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดตั้งโครงการคลินิกแก้หนี้ขึ้น ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางในการแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่สุจริตและมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้มีโอกาสแก้ไขภาระหนี้ที่มีกับเจ้าหนี้หลายราย ซึ่งโดยปกติจะทำได้ยากเนื่องจากเจ้าหนี้แต่ละรายอาจมีหลักเกณฑ์ที่ต่างกัน ควบคู่กับการให้ความรู้และสร้างวินัยทางการเงินที่ดี

ในการนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางแทนเจ้าหนี้ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้อยู่ในระดับที่จัดการได้และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งได้เริ่มโครงการนำร่องตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 เป็นต้นมาและมีความสำเร็จในการช่วยแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ระดับหนึ่ง โดยมีคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ ทำหน้าที่กำกับดูแลและติดตามความคืบหน้าของโครงการ รวมทั้งพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์ในครั้งนี้จะช่วยให้โครงการมีความยืดหยุ่นและขยายขอบเขตการดำเนินการให้ครอบคลุมมากขึ้น

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ประธานกรรมการ บสส. เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาโครงการได้ผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 594 ราย ภาระหนี้รวม 129.65 ล้านบาท และในสิ้นเดือนเมษายนนี้ จะมีลูกหนี้ที่ผ่อนชำระเสร็จสิ้นเป็นรายแรก นอกจากการแก้ไขปัญหาหนี้แล้ว บสส. ได้จัดอบรมความรู้ทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทุกราย ช่วยให้ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งบรรยายให้แก่พนักงานขององค์กรต่าง ๆ เพื่อเสริมสุขภาพทางการเงินที่ดีให้แก่คนในสังคม ลดความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย เพื่อช่วยลดปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนทั้งทางตรงและทางอ้อม

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า การดำเนินงานของโครงการคลินิกแก้หนี้เป็นโครงการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด และธนาคารพาณิชย์ทั้งไทยและต่างประเทศมีความตั้งใจแน่วแน่ในการแก้ปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันในไทย ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาได้เห็นผลสำเร็จในการเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องหนี้ให้ประชาชนได้ดีในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีลูกหนี้บางส่วนที่ติดขัดเรื่องคุณสมบัติบางประการที่ทำให้เสียโอกาสเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น เพื่อขยายโอกาสให้ประชาชนมากขึ้น จึงได้ปรับหลักเกณฑ์เงื่อนไขสำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการให้มีความยืดหยุ่นและเปิดกว้าง มีความเหมาะสมกับสภาพของลูกหนี้เพิ่มขึ้น อาทิ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 ได้ปรับคุณสมบัติจากเดิมที่จะต้องเป็นบุคคลธรรมดามีเงินเดือนประจำ มาเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ รวมถึงปรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ให้ยืดหยุ่นขึ้น

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป จะขยายขอบเขตเพิ่มเติมให้ครอบคลุมถึงลูกหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันที่ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนกับธนาคาร ตั้งแต่ 2 แห่ง ขึ้นไป ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2561 ทั้งกลุ่มที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี และกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีแล้วแต่ยังไม่มีคำพิพากษา จากเดิมเมื่อเริ่มต้นโครงการ (นำร่อง) ที่กำหนดเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ที่มีรายได้ประจำ ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 และยังไม่ถูกดำเนินคดี คาดว่าจะมีลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มขึ้นจากการปรับเกณฑ์ในครั้งนี้ ประมาณ 50,000 ราย

นายทีบอร์ พานดิ กรรมการสมาคมธนาคารนานาชาติ ได้กล่าวย้ำว่า เป็นความรับผิดชอบสำคัญของสถาบันการเงินที่จะต้องก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างเป็นระบบและครบวงจร ควบคู่กับ การให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคารยังต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยเสริมสร้างการกู้ยืมที่รับผิดชอบมากขึ้น ในขณะที่ลูกหนี้เองก็จะต้องเพิ่มพูนทักษะการบริหารจัดการเงินของตนเอง ไม่ให้กลับเข้าสู่วังวนของหนี้สินอีกในอนาคต

ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด (SAM) โทรศัพท์ 0-2610-2266 หรือสมัครที่เว็บไซต์ www.debtclinicbysam.com หรือ www.คลินิกแก้หนี้.com

ข้อมูลเพิ่มเติม: สายกำกับสถาบันการเงิน

โทรศัพท์: 0 2283 5904

E-mail: [email protected]

*หมายเหตุ : ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ รวม 16 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.กสิกรไทย

ธ.เกียรตินาคิน ธ.ซิตี้แบงก์ สาขากรุงเทพฯ ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย ธ.ทหารไทย ธ.ทิสโก้ ธ.ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย

ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.ธนชาต ธ.ยูโอบี ธ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ธ.แห่งประเทศจีน (ไทย) และ ธ.ไอซีบีซี (ไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๘ Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง