กรมโรงงานฯ อัพดีกรีกม. 3 ฉบับ เพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดขยะอุตฯ ดีเดย์ใช้ 1 พ.ค. นี้ พร้อมชี้ประโยชน์แก่โรงงาน รองรับอุตฯขยายตัวทั่วไทย

ศุกร์ ๒๗ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๔:๕๘
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดตัวกฎหมายการขออนุญาตและการอนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงาน เพื่อให้การจัดการกากอุตสาหกรรมเกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ 3 ฉบับ ได้แก่ 1.หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขออนุญาต 2. การกำหนดชนิดและประเภทและวิธีการกำจัด และ 3. การรับรองผู้บำบัดและกำจัดที่จะเข้าใช้งานระบบ Auto E-license พร้อมเผยประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ก่อกำเนิดของเสีย ผู้บำบัด/กำจัดของเสีย และกรมโรงงานฯ จะได้รับเพิ่มมากขึ้น อาทิ ความสะดวก รวดเร็วและโปร่งใส ลดภาระพื้นที่การจัดเก็บกากอุตสาหกรรม ยกระดับมาตรฐานการประกอบการกำจัดกากอุตสาหกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจติดตามและกำกับดูแล ทั้งนี้ จากการออกกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ดังกล่าวส่งผลให้ ระบบ Auto E-license พร้อมใช้งานในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้

นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปี 2561 กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดการกากอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างครบวงจร อันได้แก่ผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator: WG) ผู้ขนส่งของเสีย (Waste Transporter: WT) และผู้บำบัด กำจัด และรีไซเคิลของเสีย (Waste Processor: WP) ล่าสุดจึงได้มีการปรับปรุง ข้อกฎหมายภายใต้ พ.ร.บ. โรงงาน เกี่ยวกับการขออนุญาตและการอนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกบริเวณโรงงาน (สก.2) เพื่อให้การจัดการกากอุตสาหกรรมเกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม เพิ่มอีก 3 ฉบับ โดยกฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ประกอบด้วย

1. การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาต สก.2 ผ่านระบบ E-license และ Auto E-license โดยมีการกำหนดขั้นตอนขออนุญาตและการอนุญาต รวมถึงกำหนดคุณสมบัติของผู้ก่อกำเนิดของเสีย และผู้บำบัด กำจัด และรีไซเคิลของเสียที่จะมาใช้งานระบบ E-license และ Auto E-license

2. การกำหนดชนิด ประเภทและรหัสของเสียรวมถึงวิธีกำจัด ของสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานสำหรับระบบ Auto E-license เพิ่ม จำนวน 402 รหัส หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของรหัสของเสียอุตสาหกรรมทั้งหมด

3. การรับรองผู้บำบัดและกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว และการกำหนดคุณสมบัติของผู้รับบำบัดหรือกำจัดกาก(WP) ที่จะเข้าใช้งานระบบ Auto E-license โดยต้องผ่านการรับรอง Green Industry ระดับที่ 3 ขึ้นไป ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงานจัดการกากอุตสาหกรรม ระดับเหรียญทอง และต้องมีการดำเนินการบำบัด/กำจัดในกระบวนการที่ขอรับรองไม่น้อยกว่า 1 ปี

โดยการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบดังกล่าว จะช่วยให้เกิดประโยชน์ ต่างๆ ในแต่ละมิติ ได้แก่ ทางด้านผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator: WG) คือ โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป จะสามารถย่นระยะเวลาการขออนุญาตและลดภาระพื้นที่การจัดเก็บกากอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสและทางเลือกในวิธีและกระบวนการกำจัดกากที่มีคุณภาพได้มากขึ้น ส่วนทางด้านผู้รับบำบัด/กำจัดของเสีย (Waste Processor: WP) หรือโรงงานผู้รับบำบัดและกำจัดกาก จะก่อให้เกิดการแข่งขันในเรื่องของกระบวนการกำจัด รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมการกำจัดในรูปแบบใหม่เพื่อให้ได้มาตรฐานที่ดีขึ้นในอนาคต และถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการประกอบการกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม คาดว่ากากขยะอุตสาหกรรมจากในปริมาณทั้งหมดกว่า 24 ล้านตัน ตามตัวชี้วัดในปีงบประมาณ 2561 จะสามารถเข้าระบบได้มากขึ้น และมีการพิจารณาเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจติดตามและกำกับดูแล นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าจะเพิ่มปริมาณผู้ประกอบการที่รับกำจัดกากชั้นดีให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบ สามารถคัดเลือกตามความเหมาะสมของประเภทกากขยะ และเพิ่มโอกาสและทางเลือกให้กับผู้ก่อกำเนิดของเสียได้ต่อไป นายมงคล กล่าวสรุป

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 022024167 หรือเข้าไปที่ www.diw.go.th

กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนามาตรฐานการจัดการหรือการให้บริการบำบัดและกำจัดสิ่งปฏิกูลฯ ของผู้ให้บริการให้ได้มาตรฐานเป็นไปตามหลักวิชาการและถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้ดำเนินโครงการยกระดับมาตรฐานการให้บริการจัดการกากอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนามาตรฐานการให้บริการจัดการกากอุตสาหกรรม โดยมุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นแรงผลักดันหนึ่งที่จะนำไปสู่การให้บริการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมก้าวไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมระบบ E-license = การขออนุญาตเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ พิจารณาอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ และแจ้งผลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ระบบ Auto E-license = การขออนุญาตเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ การพิจารณาแบบอัตโนมัติ โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และแจ้งผลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๓๖ เรนวูด ปาร์ค เดินหน้าพัฒนากีฬากอล์ฟไทย ล่าสุดจับมือ 'คล็อด ฮาร์มอน' ผู้ฝึกสอนนักกอล์ฟชั้นแนวหน้าระดับโลก
๑๑:๑๖ เบตเตอร์ กรุ๊ป ผนึกกำลัง สถาบันยานยนต์ ร่วมพัฒนาการจัดการ ซากยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งสู่มาตรฐานระดับสากล
๑๐:๑๐ ผถห. EFORL โหวตผ่านทุกวาระ
๑๐:๑๖ ระเบิดศักยภาพงานพิมพ์ยุคดิจิทัล! แคนนอน จัดทัพพรินเตอร์เกรดอุตสาหกรรม โชว์เทคโนโลยีและโซลูชันสุดไฮเทคใน Drupa
๑๐:๑๐ Ocean Park Hong Kong โลกแห่งความสุขเปี่ยมรอยยิ้มสำหรับทุกคน
๑๐:๓๘ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เผยโฉมเรือ 'แชงกรี-ลา ฮอไรซัน ครูซ' ใหม่ พร้อมเปิดประสบการณ์ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดหรู
๑๐:๓๘ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ชวนช้อปสนั่นรับเปิดเทอมกับแคมเปญ ROBINSON LIFESTYLE BACK TO SCHOOL
๑๐:๔๗ มองอย่างเข้าใจ ไสยศาสตร์ในวิถีเมือง ตัวช่วยรับมือโลกป่วนและความเปลี่ยวเหงา
๑๐:๐๐ สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งปารีส พร้อมบรรยากาศโอลิมปิกเกมส์ กับบัตรเครดิตอิออน รอยัล ออร์คิด พลัส วีซ่า แพลทินัม
๑๐:๕๔ ผถห.SAFEอนุมัติปันผลอีก 0.15 บ./หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.805 บ.