คณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน การธนาคาร สถาบันการเงิน และตลาดทุน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เร่งผลักดัน พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (ก.บ.ช.)

พุธ ๐๒ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๒:๔๗
คณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน การธนาคาร สถาบันการเงินและตลาดทุน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมี ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ เป็นประธาน ได้ประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับหลักการและเหตุผล รวมทั้งสาระสำคัญ ตลอดจนความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ พ.ศ.... (ก.บ.ช.) โดยมีความเห็นตรงกันว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งผลักดันให้จัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติโดยเร็ว เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

ร่าง พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ พ.ศ... จะบังคับใช้กับนายจ้างและลูกจ้างเอกชนที่ยังไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยกำหนดให้ลูกจ้างจ่ายเงินสะสมและนายจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน เริ่มจากร้อยละ3 ในปีแรกและค่อย ๆ เพิ่มเป็นลำดับขึ้นไปในปีต่อ ๆ ไป ซึ่งมีเป้าหมายให้ลูกจ้างมีรายได้หลังเกษียณอยู่ที่ร้อยละ 50 ของเงินเดือนเดือนสุดท้ายก่อนการเกษียณอายุ และจะจัดตั้งสำนักงาน ก.บ.ช. ให้รัฐเป็นผู้บริหารจัดการ โดยจะบริหารเองและ/หรือคัดเลือกเอกชนที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางรายให้เข้ามาเป็นผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ ร่าง พรบ. ดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เรื่องนี้ นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานกิตติมศักดิ์สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้ให้ความเห็นว่า เงินกองทุนนี้มาจากเงินของลูกจ้างและนายจ้าง ไม่มีเงินจากภาครัฐมาสนับสนุน และรัฐก็ไม่ควรใส่เงินเข้ามาสนับสนุนเพราะจะเป็นภาระงบประมาณมหาศาลในอนาคต จึงต่างกับ กบข. และกองทุนประกันสังคม ที่รัฐเข้ามาบริหารจัดการแบบรวมศูนย์โดยผ่านการจัดตั้งสำนักงาน กบข. และสำนักงานประกันสังคม เพราะรัฐใส่เงินงบประมาณแผ่นดินสนับสนุนลงไปด้วย

"ในเมื่อกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาตินี้เป็นเงินของภาคเอกชนทั้งหมด (ลูกจ้างจ่ายและนายจ้างสมทบ) ไม่มีเงินจากรัฐเกี่ยวข้อง จึงไม่เห็นความสมเหตุสมผลที่จะให้รัฐเข้ามายุ่งเกี่ยวในการบริหารจัดการไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เพราะการบริหารจัดการเงินจำนวนมากของประชาชนโดยภาครัฐจะมีความเสี่ยง มีแนวโน้มที่จะเกิดความไม่โปร่งใสอันเกิดจากการแทรกแซงทางการเมือง หรือเปิดโอกาสให้ใช้อำนาจโดยมิชอบได้โดยง่าย ประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินจึงควรมีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ที่จะเลือกลงทุนในกองทุน ก.บ.ช.ของ บลจ.ใด ๆ ก็ได้ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เหมือนที่เขามีสิทธิในการเลือกลงทุนในกองทุน RMF โดยเสรี เพราะการเปิดเสรีจะทำให้เกิดการแข่งขัน เมื่อมีการแข่งขันประชาชนก็ย่อมได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องของทางเลือก ราคา บริการ การเข้าถึงข้อมูล กับการได้รับคำแนะนำในการวางแผนการเงินและลงทุน นอกจากนี้ การจัดตั้งองค์กรภาครัฐขึ้นมาใหม่ในลักษณะสำนักงาน ก.บ.ช. เพื่อเข้ามาบริหารจัดการกองทุนตามร่าง พรบ.ฯ นี้ก็เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนโดยใช่เหตุ จึงเห็นว่ารัฐควรช่วยทำหน้าที่ผลักดันให้เกิดกฎหมายโดยเร็ว โดยรัฐไม่ควรจะเข้ามาเป็นผู้เล่นเสียเองไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม" นางวรวรรณ กล่าว

ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน การธนาคาร สถาบันการเงิน และตลาดทุน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า "การจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติเพื่อช่วยให้ลูกจ้างในระบบอีกหลายสิบล้านคนได้มีหลักประกันในยามเกษียณ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลสนับสนุน แต่เนื่องจากเงินกองทุนนี้เป็นเงินของภาคเอกชน โดยลูกจ้างจ่ายและนายจ้างร่วมจ่ายสมทบ รัฐไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจ่ายเงิน เจ้าของเงินจึงควรมีอิสระในการเลือกนโยบายการลงทุนและผู้จัดการกองทุน ตลอดจนเรียนรู้การจัดการเงินออมของตนเอง อันเป็นการสร้างรากฐานการจัดการเงินส่วนบุคคลของประชาชน และยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดการลงทุนให้เติบโตต่อไป ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และอุตสาหกรรมนี้ได้มีการพัฒนาจนเชี่ยวชาญมาแล้วเป็นเวลากว่า 30 ปี ทั้งยังมีการกำกับดูแลที่ดี รัฐควรระมัดระวังไม่ไปบริหารเงินกองทุนของเอกชนโดยที่รัฐก็ไม่มีความชำนาญ ในขณะที่มีภาคเอกชนที่ได้รับการพัฒนาจนเชี่ยวชาญเป็นผู้จัดการอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้น การจัดตั้งหน่วยงาน กบช. ขึ้นมาเพื่อเป็นหน่วยงานใหม่อีกหนึ่งหน่วยงาน ต้องตั้งงบประมาณจำนวนมากขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่บริหารและมาดำเนินการคัดเลือกผู้บริหารกองทุน ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน และประเทศมีฐานะงบประมาณที่ขาดดุลติดต่อกันมามากกว่า 10 ปีแล้ว และยังอาจก่อให้เกิดข้อสงสัยได้ง่ายในเรื่องความโปร่งใสในการจัดการ ซึ่งไม่สอดคล้องกับความพยายามในการขจัดปัญหาความไม่โปร่งใสในภาครัฐที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๔๙ ไอแบงก์ ลงนาม MOU สินเชื่อสวัสดิการแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำ สำนักงานศาลยุติธรรม กว่า 16,000 คน ทั่วประเทศ
๑๐:๕๔ รวม 4 วิธีที่ช่วยปรับให้รถที่ขับอยู่นุ่มนวลขึ้นเหมือนได้คันใหม่
๑๐:๔๘ ซีพีแรม เปิดตัว FTEC (Food Technology Exchange Center) ศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาหาร
๑๐:๑๔ iQIYI (อ้ายฉีอี้) เดินหน้ารุกตลาดยกระดับวงการ จัดงาน iQIYI 2025 World Conference เปิดตัวพรีเมียมไลน์อัพกว่า 400
๑๐:๑๓ บล.เกียรตินาคินภัทร แนะ 5 หุ้นนอกคุณภาพ นำโดย Netflix และ Mastercard คว้าโอกาสท่ามกลางตลาดผันผวน
๑๐:๓๖ อบอุ่นมาก! จิม ทอมป์สัน x ซี-นุนิว เสิร์ฟความฟินขั้นสุดกับ Exclusive Lucky Fan Dinner ค่ำคืนสุดพิเศษที่เหล่า ซนซน
๑๐:๕๓ เวียตเจ็ทเสริมฝูงบิน เดินหน้ารุกตลาดญี่ปุ่น ขยายเส้นทางระหว่างประเทศ หนุนแผนเติบโตปี 2568
๑๐:๕๖ เบทาโกร ได้รับการยกระดับ CAC ในระดับสูงสุด ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ และโปร่งใส
๐๙:๓๖ เฮ้าส์ สามย่าน จัดสองเทศกาลภาพยนตร์คุณภาพ กับ MOVIEMOV Italian Film Festival 2025 และ European Union Film Festival
๐๙:๑๑ จากไอดอลสู่หมอผี! ซอฮยอนฟาดหนัก เสิร์ฟความเดือด Holy Night: Demon Hunters คนต่อยผี 8 พ.ค.นี้