AJA อวด Q1/61 พลิกโชว์กำไรพุ่ง 109.42% ยอดขายสมาร์ทโฟน-แทบเล็ตคึกคัก รุกแตกไลน์ธุรกิจดันผลงานปีนี้สดใส

พุธ ๑๖ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๐:๕๕
"เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี" แจงไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิ จำนวน 11.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.42% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 126.69 ล้านบาท และมีรายได้รวมเท่ากับ 305.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.02% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 275.19 ล้านบาท หลังยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ( Smart Phone) แท็บเล็ต ของบริษัทย่อยฯ พุ่ง ซีอีโอ"ดร.อมร มีมะโน" มั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้สดใส หลังเดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจ รุกนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า – โลจิสติกส์ เพื่อการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก

ดร.อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AJA)เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 11.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่ากับ 138.62 ล้านบาท หรือ 109.42% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 126.69 ล้านบาท และมีรายได้รวมเท่ากับ 305.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.33 ล้านบาท หรือ 11.02% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ275.19 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุหลักของรายได้ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ( Smart Phone) แท็บเล็ท และอุปกรณ์เสริม ของบริษัทย่อย (บริษัท สยามแอดวานซ์ อีเล็คทรอนิค จำกัด) ที่เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และนโยบายการเร่งระบายสินค้าของบริษัท

ขณะที่มีต้นทุนขายเท่ากับ 200.03 ล้านบาท คิดเป็น 66.75% ของรายได้จากการขาย โดยอัตราส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขาย ลดลง 6.04% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับ 72.79% สาเหตุหลักจากบริษัทมีการกลับรายการตั้งสำรองมูลค่าลดลงของสินค้าคงเหลือ ประเภทสินค้ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ( SET TOP BOX) และเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทได้มีการจำหน่ายสินค้ากลุ่มดังกล่าวและมีการจัดงานแสดงสินค้า Expo อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเร่งระบายสินค้าของบริษัท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AJA กล่าวอีกว่า บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการในปีนี้น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯได้กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก โดยการขยายไลน์ไปในธุรกิจต่างๆ ดังนี้ คือเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle)" ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทย่อย คือ"ไรเซน เอนเนอร์จี" ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle)" โดย AJA ถือหุ้น 45% ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินโครงการแท็กซี่ วีไอพี ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ BYD e6 จำนวน 1,000 คัน ของกรมขนส่งทางบก โดยเตรียมส่งมอบรถจำนวน 100 คัน ภายในปีนี้

นอกจากนี้ ยังขยายการลงทุนไปธุรกิจโลจิสติกส์ โดยจัดตั้ง บริษัท บีแอลทีซี อินคอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) เพื่อใช้เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่ง AJA ถือหุ้น 60.275% ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งกลุ่มบริษัท และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจหลัก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง