บลจ.กสิกรไทยคาด ประเด็นการเมืองอิตาลีกดดันบรรยากาศลงทุน แต่ภาพรวมยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นยุโรป

พฤหัส ๓๑ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๔๓
นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยถึงสถานการณ์การเมืองในอิตาลีภายหลังประธานาธิบดีอิตาลีเข้าแทรกแซงโดยแต่งตั้งนายเปาโล ซาโวนา ซึ่งมีแนวคิดที่จะนำอิตาลีแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ขึ้นเป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ สร้างความไม่พอใจให้ผู้นำกลุ่มพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุด และขอถอนตัวออกจากการถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลทำให้มีแนวโน้มที่อิตาลีจะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม และทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้น

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้ดัชนีหุ้นอิตาลี (FTSE MIB) ปิดตลาดลดลง 2.7% ส่วนตลาดหลักๆในยุโรปอื่นๆ ปรับตัวลงมากกว่า 1% ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 1.6% ส่วนดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 1.2% (ข้อมูล ณ 29 พ.ค. 61) ส่วนตลาดตราสารหนี้เกิดเทขายพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีทำให้ดอกเบี้ยของพันธบัตรที่มีอายุ 2 ปี ปรับเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 2% ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นที่สูงสุดภายใน 1วันทำการในรอบ 26ปี และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนในการกู้ยืมเงินของรัฐบาลอิตาลีเนื่องจากปัจจุบันระดับหนี้ของอิตาลีอยู่ที่ 130% ต่อ GDP

"สำหรับมุมมองของบลจ.กสิกรไทย มองว่าสถานการณ์การเมืองภายในอิตาลี อาจจะยืดเยื้อออกไป และถึงแม้ว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้แต่การจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพยังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐที่จะออกมา อย่างไรก็ตามน่าจะส่งผลกระทบต่อมุมมองของเศรษฐกิจภายในประเทศของอิตาลีเองเท่านั้น ส่วนผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในยูโรโซนในภาพรวมจะยังคงมีอยู่ในระยะสั้น ขณะที่ความเสี่ยงต่อการแยกตัวของสหภาพยุโรปนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจในยุโรปยังคงเหมือนเดิม และการดำเนินนโยบายทางการเงินของ ECB ก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดิม" นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านคำแนะนำสำหรับผู้ที่มีการลงทุนในกองทุนต่างประเทศโดยเฉพาะหุ้นยุโรป นักลงทุนที่รับความผันผวนไม่ได้แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อดูความชัดเจนของสถานการณ์ ส่วนนักลงทุนที่รับความผันผวนได้ สามารถทยอยเข้าลงทุนในกองทุนยุโรปที่ไม่มีสัดส่วนการลงทุนในอิตาลีอย่างมีนัยสำคัญได้ ทั้งนี้กองทุน K-EUROPE ของบลจ.กสิกรไทยซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหุ้นยุโรปผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนแยกตามรายประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ อังกฤษ 23.2% เยอรมัน 18.1% สวีเดน 10.8% เดนมาร์ก 10.8% และฝรั่งเศส 10% ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในอิตาลีมีเพียงเล็กน้อย (ข้อมูล ณ 30 เม.ย 61)

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตลาดล่าสุด (30 พ.ค. 61) ดัชนีหุ้นอิตาลี (FTSE MIB) ปิดตลาดบวก 2.09% ส่วนตลาดหลักๆในยุโรปอื่นๆ รวมถึงดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ปรับตัวบวกเช่นเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอิตาลี หลังจากพรรคการเมืองใหญ่ของอิตาลีกำลังจับมือกับพรรคพันธมิตรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ทั้งนี้บลจ.กสิกรไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นยุโรปในระยะยาว เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคยังมีแนวโน้มฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกัน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ดีจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่แข็งแกร่ง ประกอบกับระดับราคาหุ้นที่เหมาะสมและยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ทำให้หุ้นยุโรปมีความน่าสนใจมากกว่าในเชิงเปรียบเทียบ

ผู้ลงทุนโปรด "ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud