บีซีพีจีขยายฐานพลังงานหมุนเวียนในไทย รุกธุรกิจพลังงานลมในภาคใต้

จันทร์ ๑๘ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๐:๐๙
บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในไทย ลงทุนธุรกิจพลังงานลมในจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท ลมลิกอร์ จำกัด กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท ลมลิกอร์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2561 ด้วยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม โดยมีวงเงินลงทุนรวมค่าหุ้นและค่าก่อสร้างไม่เกิน 825 ล้านบาท โครงการดังกล่าวขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปี 2561

การลงทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการขยายธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นๆ ภายใน ประเทศนอกเหนือไปจากพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงานลมในไทยเป็นครั้งแรกในฐานะผู้ดำเนินกิจการ หลังจากร่วมลงทุนในบริษัท เพโทรวินด์ เอเนอร์ยี จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตรวม 50 เมกะวัตต์ เมื่อช่วงไตรมาสที่สองของปี 2560

นายบัณฑิตกล่าวว่า "ผมมั่นใจว่าการลงทุนในโครงการนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ โดยบริษัทฯ จะขายไฟฟ้าได้ประมาณหน่วยละ 7 บาทจากการได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (adder) ในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย จากราคาค่าไฟฐาน เป็นระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสดีในการขยายฐานธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศ เป็นการเสริมสร้างความรู้ความชำนาญของบีซีพีจีในการดำเนินการธุรกิจพลังงานลม โดยโครงการลมลิกอร์ ตั้งอยู่ในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีความเร็วลมสูง เหมาะแก่การตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลม อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองต่อความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อประเทศชาติในภาพรวม โดยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนและผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ รวมถึงการดูแลชุมชนในพื้นที่ ระบบนิเวศ วิทยาและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงขยายธุรกิจโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ก็กำลังเข้าสู่การทำธุรกิจกับลูกค้ารายย่อยด้วยการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการบริหารจัดการซื้อขายไฟฟ้าจากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนได้มากขึ้น สร้างความเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ดร.สุเมธ สุทธภักติ ในฐานะผู้ริเริ่มและพัฒนาโครงการเดิม กล่าวว่า "ขอขอบคุณบีซีพีจีที่เข้ามารับหน้าที่ดำเนินโครงการลมลิกอร์นับจากนี้เป็นต้นไป ผมมั่นใจว่าบีซีพีจีในฐานะผู้นำด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั้งในด้านการทำธุรกิจและการบริหารจัดการอย่างมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงการมีสถานะการเงินที่มั่นคง จะเสริมนวัตกรรมต่อยอดโครงการลมลิกอร์และสามารถนำผลที่ได้ไปพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน