“ณัฐภพ”เพิ่มความเชื่อมั่นลุยเก็บ NFC เพิ่ม 4.86% มั่นใจ NFC อนาคตไปได้ไกล หลังปรับโมเดลธุรกิจลุยโลจิสติกส์ครบวงจร

อังคาร ๑๙ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๓:๔๔
บิ๊กบอส NFC "ณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี" พร้อมยืนหยัดคู่กับบริษัทฯ ลุยเก็บหุ้นในกระดานเพิ่มอีก 4.86% ดันสัดส่วนเพิ่มเป็น63.05% มั่นใจอนาคตไปได้ไกล หลังปรับโมเดลธุรกิจใหม่ มุ่งสู่โลจิสติกส์ครบวงจรของไทย รองรับดีมานด์ลูกค้าในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุด รับกระแส EEC

นายณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) (NFC) เปิดเผยว่า ได้เข้าซื้อหุ้น NFC ในกระดานเพิ่มอีก 52,885,332 หุ้น หรือคิดเป็น 4.86% ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น685,900,294 หุ้น หรือ 63.05% เนื่องจากมั่นใจในทิศทางธุรกิจของบริษัทฯในอนาคต หลังจากได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จากธุรกิจการผลิตและจำหน่ายปุ๋ย มุ่งสู่การเป็นผู้จำหน่ายเคมีภัณฑ์ และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรของไทย สอดรับนโยบายของรัฐบาลที่มีการผลักดัน โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในเขตมาบตาพุด ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากโครงการ EEC

"ผมเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของ NFC ในอนาคต จึงตัดสินใจซื้อหุ้นในกระดานเพิ่ม เพราะการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้มีการเตรียมแผนงานต่างๆ ไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ มีแผนลงทุนโครงการปรับปรุงคลังสินค้าพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าและขยายฐานลูกค้าในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายในปี 2562 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ"

อีกทั้ง ยังเตรียมลงทุนพัฒนาคลังสินค้าเหลวเพิ่มเติม บนพื้นที่ 500 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการทั้งด้านเทคนิค และการค้า รวมถึงการขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อพัฒนาคลังสินค้าเหลวจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) คาดว่าจะสรุปผลและเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติโครงการดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาส 4/61

"ทั้ง 2 โครงการที่เตรียมขยายการลงทุนในช่วงปลายปีนี้ ได้มีการทำศึกษาอย่างละเอียด โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนจะ ไม่ต่ำกว่า 2 หลัก ซึ่งหากทางบริษัทตัดสินใจที่จะลงทุน เงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดหมุนเวียนที่มีประมาณ 300-400 ล้านบาท และกู้ยืมจากสถาบันการเงิน"

นายณัฐภพ กล่าวอีกว่า การที่ NFC ปรับโมเดลธุรกิจใหม่ โดยหันมารุกธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจร เนื่องจากมีความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในส่วนของทำเลที่ตั้ง (Location) ที่อยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเป็นฐานของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่สำคัญ เหมาะสมและเอื้อต่อการเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งการขนส่งทางถนน ทางรถไฟ ทางน้ำ และทางท่อ ที่ตั้งคลังสินค้ามีศักยภาพพร้อมที่จะพัฒนาเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ และธุรกิจของบริษัทฯ ถือว่ามีโอกาสขยายตัวอีกมาก จากโครงการ EEC ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ในช่วง 5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๒๙ ม.กรุงเทพ เห็นถึงคุณค่าพลังงานที่ยั่งยืนเชิญผู้เชี่ยวชาญมาสร้างสกิลตรง
๑๖:๐๗ แอลจีเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 ผลักดันธุรกิจด้วยนวัตกรรมพร้อมรักษาสมดุลระหว่างธุรกิจหลักและการเติบโตในอนาคตเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ
๑๖:๓๕ ฮั้วฟง รับเบอร์ฯ (HFT) จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2567 ผถห.โหวตผ่านฉลุยทุกวาระ
๑๖:๕๒ ซีเอ็ด เปิดสาขาใหม่ที่ตราด! บริจาคหนังสือ 2 แสนบาท หนุนการอ่านในท้องถิ่น
๑๖:๕๙ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งปีที่อัตราหุ้นละ 0.52
๑๖:๕๙ ปรับการนอนหลับของคุณให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วยฟีเจอร์ใน HUAWEI Band 9
๑๖:๓๔ ไฮเออร์ ประเทศไทย โชว์ศักยภาพแกร่ง พาเหรดทัพนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมจัดแสดงในงาน China Enterprise Product Resources
๑๖:๑๐ สถานทูตอิตาลี เปิดศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าแห่งใหม่ในกรุงเทพ
๑๖:๕๒ CHAYO จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ไฟเขียวทุกวาระ
๑๖:๑๓ ผู้บริหารบางจากฯ แชร์แนวทางขับเคลื่อนการรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศ 2 เวที