ฟิทช์ให้อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ MTN ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ 'AA+(tha)’/'F1+(tha)’

พุธ ๒๐ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๕:๑๕
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)' แก่โครงการหุ้นกู้ Medium-Term Note (MTN) ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/AA+(tha)) โดยโครงการหุ้นกู้ดังกล่าวจะมีจำนวนวงเงินต้น ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาท (revolving) ในช่วงระหว่าง 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้คือเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคาร

โครงการหุ้นกู้ดังกล่าวนี้จะทดแทนโครงการหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิระยะสั้นเดิมของธนาคารมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้นี้จะใช้กับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ออกภายใต้โครงการเท่านั้น ทั้งนี้ไม่ได้มีการรับรองว่าหุ้นกู้ชุดอื่นที่จะออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับการจัดอันดับเครดิต

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ MTN ดังกล่าวของ SCB อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของธนาคารที่ 'AA+(tha)' และ 'F1+(tha)' ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ในการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCB สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจธนาคารครบวงจร (universal bank) ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านลูกค้ารายย่อย อัตรากำไรและคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่อ่อนแอจนถึงปี 2560 และส่งผลให้อัตราส่วนทางการเงินในด้านคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์กลุ่มเดียวกันในต่างประเทศ (global peers) แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าแรงกดดันดังกล่าวน่าจะเริ่มทยอยปรับตัวลดลงในช่วงปี 2561 เนื่องจากแนวโน้มของสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งธนาคารได้เพิ่มความเข้มงวดในเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ฟิทช์ยังคาดว่า SCB น่าจะยังคงสามารถรักษาระดับรายได้ อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และฐานะเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้อย่างต่อเนื่อง และทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวกันน่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ MTN จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ SCB

การปรับตัวแย่ลงอย่างต่อเนื่องและมากกว่าระดับที่ฟิทช์คาดการณ์ในด้านคุณภาพสินทรัพย์หรือความสามารถในการทำกำไร (ทั้งนี้รวมถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากของระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ปัจจัยทั้ง 2 ปรับตัวลดลงอย่างมากได้ในอนาคต) พร้อมกับการที่ธนาคารไม่สามารถรักษาความสามารถในการรองรับความเสี่ยงไว้ในระดับที่เพียงพอ ในด้าน ระดับของสำรองหนี้สูญและฐานะเงินกองทุน อาจส่งผลให้ธนาคารถูกปรับลดอันดับเครดิต

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตสำหรับ SCB สามารถหาเพิ่มเติมได้จากรายงานภายใต้หัวข้อ "ฟิทช์เพิ่มอันดับเครดิตสากลระยะสั้นของ KTB เป็น 'F2' และคงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบอีก 4 แห่ง" ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 (https://www.fitchratings.com/site/pr/10028995) ซึ่งหาได้จาก www.fitchratings.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน