แพทย์แผนไทยฯ เดินหน้าสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ เพื่อภารกิจการคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมรดกอันล้ำค่าของชาติสู่การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

ศุกร์ ๒๒ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๓:๔๖
กรมการแพทย์แผนไทยฯ เดินหน้าสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เผย 3 ภารกิจเด่นเพื่อการคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติ

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเปิดเผยว่า"กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย" เป็นบุคคลสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการกำหนดหรือออกมาตรการเพื่อการคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติและส่งเสริมให้เอกชน ชุมชนและองค์กรเอกชนให้ตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ พัฒนาและใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอย่างยั่งยืน

ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ได้กำหนดให้แบ่งการคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ

1. การคุ้มครองตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยโดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ1.1ตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติที่มีประโยชน์หรือมีคุณค่าในทางการแพทย์หรือการสาธารณสุขเป็นพิเศษและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดให้เป็นตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ หากผู้ใดประสงค์ จะนำไปใช้ประโยชน์ในทางการค้า หรือประสงค์จะทำ การศึกษาวิจัย ตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ ผู้นั้นจะต้องยื่นคำขอรับอนุญาตใช้ประโยชน์และชำระค่าธรรมเนียมรวมทั้งค่าตอบแทนสำหรับการใช้ประโยชน์ดังกล่าวต่อผู้อนุญาต 1.2 ตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไปที่มีการใช้ประโยชน์กันอย่างแพร่หลายและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศ กำหนดให้เป็นตำรับยาแผนไทย หรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป 1.3 ตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยส่วนบุคคลที่มีสัญชาติไทย และมีคุณสมบัติเป็นผู้คิดค้น หรือผู้ปรับปรุงหรือพัฒนาหรือผู้สืบทอด ตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทย บุคคลผู้นั้นมีสิทธินำตำรับยาแผนไทยหรือตำราการแพทย์แผนไทยของตนมาขอจดทะเบียนสิทธิขอรับการคุ้มครองและเป็นผู้ทรงสิทธิได้ และมีสิทธิในการผลิตยาและใช้ศึกษาวิจัย จำหน่าย ปรับปรุงหรือพัฒนา ตำรับยาแผนไทยหรือภูมิปัญญาในตำราการแพทย์แผนไทยที่ได้จดทะเบียนไว้ และอนุญาตให้บุคคลใช้สิทธิของตนได้

2. การคุ้มครองสมุนไพร ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สามารถออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้สมุนไพรที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย หรือมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ หรืออาจจะสูญพันธุ์ เป็นสมุนไพรควบคุม ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้กวาวเครือเป็นสมุนไพรควบคุม โดยกำหนดให้ (1) ผู้ครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษาหรือขนย้ายกวาวเครือที่มีแหล่งที่มาจากธรรมชาติ หรือหากมีการปลูกเกินกว่าจำนวนหรือปริมาณที่ประกาศกำหนด ต้องแจ้งจำนวนและปริมาณแก่ นายทะเบียน ณ สำนักงานนายทะเบียนกลาง (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก) หรือสำนักงานนายทะเบียนจังหวัด (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) ในเขตท้องที่ ภายใน 60 วัน (2) ผู้ปลูกกวาวเครือเพื่อการศึกษาวิจัยหรือส่งออก การจำหน่ายหรือแปรรูปเพื่อการค้า ต้องขออนุญาตและแจ้งสถานที่ปลูก ปริมาณ และวันที่ปลูกแก่นายทะเบียน

3.การคุ้มครองสมุนไพรและบริเวณถิ่นกำเนิดของสมุนไพร มีมาตรการดำเนินการในพื้นที่ 3 ประเภท ได้แก่ พื้นที่เขตอนุรักษ์ พื้นที่นอกเขตอนุรักษ์ และที่ดินเอกชน สำหรับกรณีที่ดินเอกชนนั้นเป็นการสนับสนุนให้เอกชนมีส่วนร่วมในการคุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาสมุนไพร เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินที่เป็นถิ่นกำเนิดของสมุนไพร หรือที่ดินที่จะใช้ปลูกสมุนไพร สามารถนำที่ดินนั้นไปขอขึ้นทะเบียนต่อนายทะเบียน เพื่อขอรับความช่วยเหลือหรือการสนับสนุนต่อไป

นพ.ปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมีวาระการดำรงตำแหน่งได้ครั้งละ 2 ปี และกำลังจะพ้นวาระตามตำแหน่ง ลงในวันที่ 29 ธันวาคม 2561 ที่จะถึงนี้ จึงต้องมีการสรรหากรรมการชุดใหม่เข้ามาทำงานแทน โดยผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกลุ่มผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย) ในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้คือมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ สาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป เคยปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานพยาบาล/สถานที่ผลิตยา ขายยา นำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร หรือสถานที่เก็บยาซึ่งยาแผนโบราณ หรือเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเสนอชื่อตนเองหรือบุคคลอื่นเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกลุ่มดังกล่าวฯ

ในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยได้ สามารถตรวจสอบคุณสมบัติและดาวโหลดแบบฟอร์มการเสนอชื่อได้ทางเว็บไซต์http://indi.dtam.moph.go.th/,http://www.dtam.moph.go.th ,http://www.thaimed.or.th ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2561ในวันและเวลาราชการโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร. 0 2159 5607-8 อีเมลล์ [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน