Pulsus เผยสื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดียคือช่องทางเผยแพร่บทความวิชาการที่คุ้มค่า

จันทร์ ๒๕ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๖:๒๒
- Dr Srinubabu ซีอีโอ Pulsus เผยวารสารวิชาการแบบบอกรับสมาชิก และเว็บไซต์สืบค้นข้อมูลแบบดรรชนี (indexing site) กำลังค่อย ๆ สูญหายไป

วารสารวิชาการที่เปิดให้เข้าถึงบทความในเล่มอย่างอิสระ ( Open Access publishing ) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากปัจจุบันโลกเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้นผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้การจัดเก็บ การจัดทำดรรชนี การทำเหมืองข้อมูล การเรียกดูข้อมูล และการกระจายข้อมูลการวิจัยกลายเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายขึ้น วารสารแบบเปิดเหล่านี้ผลิตบทความนับล้านชิ้นต่อปี จากนักวิจัย 25,000-30,000 คน โดยจำนวนนักวิจัยและผู้เขียนบทความที่ยอมรับการเผยแพร่ผลงานวิชาการในวารสารแบบเปิดหรือตามเว็บบอร์ดนั้น มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ 10% ต่อปี และปัจจุบันมีผู้เขียนมากกว่า 5.5 ล้านคนที่เผยแพร่บทความของตนในวารสารแบบเปิดหรือเว็บบอร์ด ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า วารสารวิชาการแบบเปิดจะยังคงเป็นโมเดลการเผยแพร่บทความที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอนาคต ในขณะที่การเผยแพร่บทความลงในวารสารแบบบอกรับสมาชิกและเว็บสืบค้นข้อมูลแบบดรรชนีนั้น กำลังจะสูญหายไปเรื่อย ๆ เนื่องจากนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ต่างหันไปค้นคว้าข้อมูลจากวารสารที่เปิดให้เข้าถึงบทความในเล่มอย่างอิสระ

นอกจากนี้ หน่วยงานหลัก ๆ อย่างเช่น WHO, EMBL, NIH และ Welcometrust ยังได้ตั้งกฎให้เผยแพร่ผลงานที่ทางหน่วยงานเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนวิจัย ลงในวารสารวิชาการแบบเปิดอีกด้วย ทั้งนี้ ในการสำรวจตลาดสื่อสิ่งพิมพ์ปี 2559 มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบด้วยหนังสือและสิ่งพิมพ์ประเภทอื่น ๆ นั้น พบว่า วารสารวิชาการ ประเภทวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการแพทย์ (STM) มีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็นมูลค่าถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในขณะที่วารสารประเภท STM แบบบอกรับสมาชิกได้หดตัวลงมาอยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2559 (1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2557) แต่วารสาร STM ที่เปิดให้เข้าถึงอย่างอิสระนั้น กลับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะ 900 ล้านดอลลาร์ในปี 2560 นักวิจัยเหล่านี้ผลิตบทความจำนวน 2.5 ล้านบทความต่อปี โดยจำนวนนักวิจัยและบทความที่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิ ( peer-reviewed articles ) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีถึง 10% (CAGR) ซึ่ง Dr. Srinubabu Gedela ซีอีโอของ Pulsus และ Omics International กล่าวว่า "สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า สื่อดิจิทัลและตัววัดความนิยมของบทความวิชาการนั้นกำลังเป็นที่ต้องการเร่งด่วน เพื่อมารองรับชุมชนวิทยาศาสตร์"

การเกิดขึ้นของสือดิจิทัลออนไลน์ได้พลิกโฉมวงการตีพิมพ์บทความวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนี้อย่างสิ้นเชิง ด้วยการให้ความสำคัญต่อตัววัดความนิยมของบทความ หรือ article impact factor/articles metrics แทนการวัดความนิยมจากวารสาร หรือ journal impact factor โดยคำนวณจากยอดคลิกไปยังบทความ ยอดอ่าน ยอดดาวน์โหลด ยอดแชร์ ยอดไลค์ การโต้ตอบออนไลน์ และจำนวนครั้งที่บทความถูกนำไปอ้างอิงในวารสาร peer reviewed ฉบับอื่น ๆ ซึ่ง Dr. Srinubabu Gedela กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แพลตฟอร์มเครือข่ายนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ อาทิ ResearchGate, LinkedIn, GoogleScholar ตลอดจนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Twitter นั้น มีบทบาทสำคัญในการยกระดับ article impact factor

Pulsus เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านสุขภาพและสารสนเทศทางสุขภาพ โดยมีพนักงานมากกว่า 5,000 คน ประจำสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ รวมถึงสำนักงานในลอนดอน ( Pulsus-London ) เชนไน (Pulsus-Chennai) คุร์เคาน์ (Pulsus-Gurgaon) วิสาขปัตนัม (Pulsus Visakhapatnam) และไฮเดอราบัด ( Pulsus-Hyderabad )

ติดต่อ: [email protected] , +1-650-268-9744

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/544592/PULSUS_Logo.jpg

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud