พีอาร์เอ อะคาเดมี มองตลาดอสังหาฯ ระดับกลาง-บน คึกคัก ยกทำเลทองหล่อ-เอกมัย และเมืองท่องเที่ยวมาแรง-รับอานิสงส์ดีมานด์ต่างชาติพุ่ง

จันทร์ ๐๒ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๐:๒๖
สถาบันพีอาร์เอ อะคาเดมี มองตลาดอสังหาฯ ในครึ่งปีหลังของปี 2561 ยังคงเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มตลาดระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป แนะทำเลลงทุนคอนโด มั่นใจย่านทองหล่อ-เอกมัย ผลตอบแทนสูง พร้อมเพิ่มพอร์ตตลาดคอนโด ภาคตะวันออก รับอานิสงส์โครงการอีอีซี และเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ พัทยา ภูเก็ต หลังเห็นสัญญาณต่างชาติแห่ซื้อ หนุนราคาที่ดินและอสังหาฯ ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ หรือโค้ชตั้ง วิทยากร นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ พีอาร์เอ อะคาเดมี (P.R.A. Academy) สถาบันสอนการลงทุนอสังหาครบทุกรูปแบบ เปิดเผยว่า ผลวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังของปี 2561 คาดว่าตลาดคอนโดจะปรับตัวดีขึ้น แต่คงยังไม่ถึงกับดีมาก เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสโตเกินอัตราร้อยละ 4.5 แต่หากพิจารณาข้อมูลแล้วเศรษฐกิจไทยเป็นการฟื้นตัวแบบกระจุกตัวอยู่เฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น ทำให้ยังไม่ได้กระจายตัวไปสู่กลุ่มคนต่างๆ ทั่วประเทศมากนัก โดยสังเกตได้จากค่าเงินบาทแข็ง และราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวต่ำ รวมถึงราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งทำให้ตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้วิเคราะห์การลงทุนออกเป็น 2 รูปแบบ คือราคาขาย และทำเลของโครงการคอนโด ขึ้นกับปัจจัยเศรษฐกิจจากที่กล่าวข้างต้นแล้ว ตัวแปรสำคัญของตลาดอสังหาฯ คือการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้ออสังหาฯ เริ่มกลับมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไปเป็นหนี้เอ็นพีแอล ค่อนข้างต่ำเพียงร้อยละ 10 แต่สำหรับโครงการในระดับราคาล้านต้นๆ การขอสินเชื่อธนาคารค่อนข้างเข้มงวด เนื่องจากตัวเลขเอ็นพีแอล ค่อนข้างสูงถึงร้อยละ 30 ดังนั้นตลาดอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะดีสำหรับโครงการที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางไปจนถึงบนที่มีราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป มีแนวโน้มคึกคักกว่าในช่วงครึ่งปีแรก

สำหรับการเลือกทำเลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มองว่าย่านทองหล่อ-เอกมัย ยังมีความน่าสนใจ แม้ว่าราคาจะปรับสูงมากขึ้น แต่ความต้องการก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยสังเกตได้จากมีผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายที่พัฒนาโครงการคอนโด ระดับบนในทำเลย่านทองหล่อ – เอกมัย หลายสิบโครงการ และยอดจองของแต่ละโครงการค่อนข้างดี และผลตอบแทนจากการลงทุนในคอนโดต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าการปล่อยเช่า จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงถึงร้อยละ 6-7

ส่วนทำเลคอนโด ต่างจังหวัดที่น่าสนใจ ได้แก่ พัทยา เพราะเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง บวกกับมีความเพียบพร้อมในด้านระบบขนส่งและระบบสาธารณูปโภคทั้งรถไฟ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึงเป็นทำเลของนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง ซึ่งทั้งการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม ทำให้มีทั้งนักท่องเที่ยว แล้วยังมีกลุ่มพนักงานระดับสูงจำนวนมากที่ทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง, ชลบุรี และศรีราชา นอกจากนั้น พัทยา มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายด้าน ทำให้กลุ่มคนทำงานกลุ่มนี้เลือกที่จะอาศัยอยู่ในพัทยา และปัจจุบันปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวเมืองพัทยา เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 ทำให้มีนักลงทุนจีนมาซื้อคอนโดเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 5-7 ต่อปี แต่มีข้อควรระวังคือประมาณโครงการเปิดใหม่ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก และมีโครงการพร้อมอยู่ มีเหลือในตลาดค่อนข้างสูง อาจทำให้สภาพคล่องของตลาดคอนโดพัทยาปรับตัวช้า

สำหรับคอนโดในจังหวัดภูเก็ต ในช่วงปีที่แล้วและปีนี้ ต่างชาติในแถบเอเชีย อาทิ จีน, ไต้หวัน และสิงคโปร์ เริ่มมาลงทุนคอนโดภูเก็ตมากขึ้น สะท้อนจากป้ายโฆษณาของผู้ประกอบการที่เป็นภาษาจีน จากก่อนหน้านี้ ผู้ซื้อคอนโดในภูเก็ตส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติจากแถบตะวันออกและยุโรป ที่ต้องการบ้านหลังที่สองไว้เพื่อพักผ่อนในฤดูหนาวเท่านั้น

"ตลาดคอนโดทั้งกรุงเทพ พัทยา และภูเก็ต เป็นทำเลที่น่าสนใจ เพราะที่ดินที่มีศักยภาพดีเหลือน้อยและราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นราคาขายของคอนโด จึงมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน แต่ที่น่าสนใจ คือผู้ประกอบการเลือกที่จะปรับลดขนาดของยูนิตลง เพื่อลดราคาต่อยูนิต และดึงกำลังซื้อและลงทุนมากขึ้น ดังนั้นแนวโน้มตลาดคอนโดครึ่งปีหลังจะดีขึ้นคงต้องอาศัยการลงทุนของต่างชาติ และนักลงทุนที่เน้นตลาดกลางและบนขึ้นไป" นายพิสิษฐ์ กล่าว

ด้าน นายปิยะพงศ์ จันทร์ภาโส หรือโค้ชเต้ วิทยากร นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ พีอาร์เอ อะคาเดมี (P.R.A. Academy) สถาบันสอนการลงทุนอสังหาครบทุกรูปแบบ กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ชะลอตัวไปบ้าง แต่สำหรับผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็ยังคงพัฒนาที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์วิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย พบว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 มีคอนโดเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งหมด 193 โครงการ หรือประมาณ 34,880 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.12 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ผลจากอุปทานของโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก บวกกับแนวโน้มอุปทานของโครงการใหม่ที่กำลังจะพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณคอนโดในตลาดจะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าผู้ประกอบการน่าจะจัดแคมเปญและโปรโมชั่นต่างๆ ออกมาเพื่อมัดใจลูกค้า ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ซื้อจะมีทางเลือกที่สูงขึ้น และมีโอกาสที่จะได้โปรโมชั่นที่ดี อย่างไรก็ดีในการลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาทำเลที่ติดกับระบบขนส่งมวลชน ใกล้ใจกลางเมือง โซนออฟฟิศ เพราะทำเลเหล่านี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของอสังหาฯ ประเภทที่ดิน ซึ่งได้รับอานิสงส์มาจากการขยายโครงการของแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นประมาณร้อยละ 30-50 เนื่องจากทำเลเหล่านี้กำลังเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการ และเมื่ออุปสงค์มีมากกว่าอุปทานแน่นอนว่า ราคาซื้อ-ขายที่ดิน สูงขึ้นแน่นอน และในตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัด ที่มีความน่าสนใจสูงสุด คือ ทำเลในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ที่ได้รับแรงกระตุ้นจากโครงการอีอีซี (EEC) โดยปัจจุบันราคาที่ดินในภาคตะวันออก ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และ100 เปอร์เซ็นต์ ในบางพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตามปัจจัยลบที่จะต้องเฝ้าระวังสำหรับตลาดอสังหาฯ ในปลายปีนี้ ก็คือ อัตรากำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน

นายธนิช พินธุรักษ์ หรือโค้ชติ้ว วิทยากร นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ พีอาร์เอ อะคาเดมี (P.R.A. Academy) สถาบันสอนการลงทุนอสังหาครบทุกรูปแบบ กล่าวปิดท้ายว่า มองการลงทุนอสังหาฯ ในทำเลต่างจังหวัดที่มาแรงยังคงเป็นโซนภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี เพราะมีปัจจัยบวกจากโครงการอีอีซี และยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกมากยิ่งขึ้น มีผลต่อราคาที่ดิน และราคาอสังหาฯ ที่ปรับขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้มองว่าที่ดินจังหวัดนนทบุรี มีความน่าสนใจเช่นเดียวกัน เนื่องจากผลสำรวจพื้นที่พบว่า มีผู้ประกอบการรายใหญ่และเล็ก ต่างให้ความสนใจลงทุนซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีมองว่าการลงทุนที่ดินในช่วงนี้เป็นเรื่องยาก เพราะราคาที่ดินขึ้นเกือบทุกที่ แต่ถ้าจะลงทุน แนะนำให้เลือกทำเลศักยภาพที่ผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าไปพัฒนาโครงการใหม่ๆ เป็นเกณฑ์หลัก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง