รองนายกฯ ฉัตรชัย เร่งทุกหน่วยงานร่วมกันควบคุมยุงลายป้องกันไข้เลือดออก ในพื้นที่เป้าหมาย 6 ร ได้แก่ โรงเรียน โรงแรม โรงงาน โรงพยาบาล โรงเรือน และโรงธรรม

พุธ ๑๘ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๒:๑๖
ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังเปิดโครงการ "อาสาปราบยุง ควบคุมโรคไข้เลือดออก"ว่าโรคไข้เลือดออกเป็นโรคประจำถิ่นแต่ละปีมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต ในปีนี้ คาดว่าจะคล้ายปี 2558 ที่มีการระบาดสูงมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขเพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถควบคุมยุงลายได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยได้รับแนวนโยบายจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงานสำรวจ กำจัดยุงลาย ลดป่วยลดตายด้วยโรคไข้เลือดออก ใช้กิจกรรมรณรงค์ "อาสาปราบยุง ควบคุมโรคไข้เลือดออก : ทุกบ้าน ทุกชุมชน ทุกพื้นที่" เริ่มจากกระทรวงสาธารณสุข และจะขยายไปทุกหน่วยงานทั่วประเทศ จึงขอให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะเครือข่ายภาคประชาชน ภาคท้องถิ่น ภาคเอกชน ร่วมมือกันอย่างจริงจังตลอดฤดูฝน ดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย 6 ร ได้แก่ โรงเรียน โรงแรม โรงงาน โรงพยาบาล โรงเรือน และโรงธรรม เพื่อลดไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่เกิน 10,000 รายในอีก 2 เดือนต่อจากนี้ และไม่ให้เกิน 10,000 รายเมื่อสิ้นปี 2561 ควบคุมยุงพาหะให้ค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายในชุมชนไม่เกินร้อยละ 5 และไม่พบลูกน้ำยุงลายในสถานที่สาธารณะ รวมทั้งสื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

พลเอก ฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย ให้ทุกจังหวัดจัดรณรงค์ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ระหว่างวันที่ 12 – 18 กรกฎาคม 2561 และทำต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินระดับอำเภอในพื้นที่ระบาดและพื้นที่เสี่ยง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณ โดยใช้งบกองทุนสุขภาพตำบล และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำประชาชนเป็นอาสาปราบยุง ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในสถานที่สาธารณะ สถานที่ราชการ และบ้านเรือนประชาชน กระทรวงศึกษาธิการ ให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในโรงเรียนทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังอาการป่วยของครู นักเรียน และเจ้าหน้าที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดูแลสิ่งแวดล้อม ห้องสุขาของสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ท กระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนหลักในการควบคุมการระบาดและการดูแลรักษาผู้ป่วย สนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ ในการรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ให้โรงพยาบาลจัดการสิ่งแวดล้อมและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในศาสนสถานในพื้นที่ ตามกิจกรรมสนับสนุนการขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์ (1 วัด 1 โรงพยาบาล)

รวมทั้งขอให้กระทรวงกลาโหม ดำเนินการให้พื้นที่ทหารเป็นเขตปลอดลูกน้ำยุงลาย และสนับสนุนกำลังคนในการควบคุมป้องกันโรคตามคำขอของพื้นที่ กรมประชาสัมพันธ์และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพแห่งชาติ (สสส.) สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสนับสนุนงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ประสานภาคีเครือข่ายในจังหวัดและชุมชนร่วมเป็นอาสาปราบยุง

สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม - 10 กรกฎาคม พบผู้ป่วยแล้ว 28,732 ราย เสียชีวิต 37 ราย ผู้ป่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายน และพฤษภาคม เป็นต้นมา ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนอายุ 5 – 14 ปี แต่ผู้เสียชีวิตกลับเป็นวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป มีอัตราป่วยตายสูงกว่าเด็ก 2 – 5 เท่า นอกจากนี้ ผลการสำรวจลูกน้ำยุงลายในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า ค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายในชุมชนสูงถึงร้อยละ 30 และอัตราการพบลูกน้ำในภาชนะน้ำขังในวัดอยู่ที่ร้อยละ 58 โรงเรียน ร้อยละ 41 และโรงพยาบาลร้อยละ 23 แสดงให้เห็นว่าแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายยังมีอยู่มากในชุมชนและสถานที่สำคัญที่มีประชาชนมารวมตัวกันจำนวนมาก เป็นความเสี่ยงที่โรคไข้เลือดออกจะแพร่กระจายต่อเนื่องและขยายวงกว้างทั่วประเทศไทย

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนร่วมกันป้องกันไม่ให้ยุงเกิด ยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือโรคไข้เลือดออกโรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ได้แก่1.เก็บบ้าน ให้สะอาด ไม่รกทึบจนเป็นที่เกาะพักของยุงลาย 2. เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด ปล่อยปลากินลูกน้ำ ใส่ทรายหรือแบคทีเรียกำจัดลูกน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ 3.เก็บขยะ เศษภาชนะที่อาจมีน้ำขัง ไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยนอนในมุ้งหรือมุ้งลวด ทายากันยุง ป้องกันไม่ให้เสียชีวิต โดยสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว หากมีอาการไข้สูงฉับพลัน ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ และหากมีไข้สูง 2 - 3 วันอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว ไม่ฉีดยาลดไข้หรือซื้อยากินเอง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือมีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุ ขอให้ดูแลเป็นพิเศษเพราะหากป่วยแล้วมีโอกาสรุนแรงกว่าปกติได้ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง