สยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ เผย “73.88 หนุนห้างร้าน-บริษัทเอกชน งดรับลูกหนี้กยศ.ที่หลีกเลี่ยงการชดใช้คืนเงิน”

ศุกร์ ๐๓ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๗:๓๓
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) แถลงผลการสำรวจ "ความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาต่อบริการเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษา" สำรวจระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,160 คน

เงินหรือกองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาจัดเป็นบริการที่ช่วยขยายโอกาสทางการศึกษาได้อีกช่องทางหนึ่งนอกเหนือจากการให้ทุนการศึกษาซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดด้านจำนวนและเงื่อนไขการรับทุน ทั้งนี้ เงินหรือกองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษานั้นจะช่วยให้นักเรียนนักศึกษาโดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถเข้าถึงการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนนักศึกษาเหล่านั้นให้ดีขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงยังเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศด้วย สำหรับประเทศไทยรัฐบาลได้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาในชื่อว่ากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาสามารถกู้เงินไปใช้เพื่อการศึกษาได้โดยต้องผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งมีนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศกู้เงินจากกองทุนดังกล่าวไปใช้เป็นจำนวนมากกว่า 5 ล้านคนแล้ว

ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาต่างๆ ก็มีการดำเนินการให้ทุนการศึกษาหรือเงินกู้ยืมทางการศึกษาควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามได้ปรากฏข่าวอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับนักเรียนนักศึกษาที่เคยกู้เงินจากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาไม่ยอมผ่อนชำระเงินกู้ตามกำหนดเป็นจำนวนมากจนทำให้กองทุนประสบปัญหาหนี้เสีย ซึ่งส่งผลให้มีการกำหนดเงื่อนไขการกู้ยืมเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าวนักเรียนนักศึกษาในรุ่นหลังๆ จึงได้รับผลกระทบจากการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ทั้งนี้ผู้คนในสังคมต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางรวมถึงเรียกร้องให้มีการจัดการขั้นเด็ดขาดกับนักเรียนนักศึกษาที่มีพฤติกรรมจงใจไม่ผ่อนชำระเงินกู้ยืม

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นเงินหรือกองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษานั้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่มากกว่ากลุ่มนักเรียนนักศึกษาปัจจุบันซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรงสำหรับบริการเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษา ดังนั้น สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาต่อบริการเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาเพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองจากนักเรียนนักศึกษา

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 15 ถึง 24 ปี แบ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.78 เพศชายร้อยละ 49.22 สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความคิดเห็นต่อการกู้ยืมเงินกองทุนเพื่อการศึกษากับคุณสมบัติด้านผลการเรียน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 71.81 มีความคิดเห็นว่าไม่ควรมีการกำหนดผลการเรียนเฉลี่ยขั้นต่ำสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีสิทธิ์กู้เงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษา ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 21.64 มีความคิดเห็นว่าควร ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.55 ไม่แน่ใจ

ในด้านความคิดเห็นต่อบริการเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษา กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 68.62 ร้อยละ 66.29 และร้อยละ 60.09 มีความคิดเห็นว่าบริการเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาจะมีส่วนช่วยให้นักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์มีโอกาสได้เข้าถึงการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นได้จริง มีส่วนช่วยกระตุ้นให้นักเรียนนักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนมากขึ้น และมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยโดยรวมได้ตามลำดับ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.03 มีความคิดเห็นว่าหากสถาบันการศึกษาต่างๆ จัดบริการเงินให้กู้ยืมทางการศึกษาเพิ่มเติมควบคู่ไปกับบริการจากภาครัฐจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้นักเรียนนักศึกษาสนใจเข้ามาเรียนในสถาบันการศึกษานั้นๆ เพิ่มขึ้น

ในด้านความคิดเห็นต่อการกำหนดมาตรการใช้คืนเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษานั้น กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 56.03 เห็นด้วยหากจะมีการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้กู้เงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาสามารถเข้าทำงานในหน่วยงานภาครัฐ/องค์กรที่ให้เงินกู้แทนการชดใช้เงินได้ ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73.53 เชื่อว่ามีผู้ที่มีพฤติกรรมจงใจหลีกเลี่ยงการชดใช้คืนเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาโดยตั้งใจ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 74.22 มีความคิดเห็นว่าควรมีการดำเนินคดีอาญาขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการชดใช้คืนเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษา

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่แต่ไม่ถึงครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 48.79 ไม่เห็นด้วยหากจะมีการห้ามมิให้พี่น้อง/บุตรหลานของผู้ที่มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการชดใช้คืนเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษามีสิทธิ์กู้เงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาอีก ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 41.12 เห็นด้วย ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 10.09 ไม่แน่ใจ

นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73.88 เห็นด้วยหากสถานประกอบการห้างร้านบริษัทเอกชนพิจารณาไล่ออก/ไม่รับเข้าทำงานในกรณีที่พนักงานหรือผู้สมัครมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการชดใช้คืนเงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษาเข้าทำงาน และกลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 74.66 มีความคิดเห็นว่าในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มความคุ้มครอง/ให้ความเป็นธรรมกับผู้ค้ำประกันการกู้เงิน/กองทุนให้กู้ยืมทางการศึกษา (อ่านข่าวต่อ : https://bit.ly/2M0JVtU)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง