สยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ เผย “5 สาเหตุนำไปสู่การเป็นคุณแม่วัยใส”

อังคาร ๑๔ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๕๓
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) แถลงผลการสำรวจ "ความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปต่อประเด็นคุณแม่วัยใสกับปัญหาในสังคมไทย" สำรวจระหว่างวันที่ 5 ถึง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,196 คน

ปัญหาคุณแม่วัยใสหรือหญิงที่ตั้งครรภ์และมีบุตรในช่วงวัยเรียนถือเป็นปัญหาสังคมที่สำคัญปัญหาหนึ่งของประเทศไทย และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการขาดเรียนของกลุ่มคุณแม่วัยใส คุณภาพในการดูแลเลี้ยงดูเด็กที่คลอดออกมา รวมถึงปัญหาทางด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ

ทั้งนี้ จากผลการวิจัยของศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านเพศภาวะและสุขภาพสตรีมหาวิทยาลัยขอนแก่นระบุว่า คุณแม่วัยใสส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ 15 ปีมากที่สุด และตั้งครรภ์ที่อายุน้อยที่สุด คือ 12 ปี โดยส่วนใหญ่ คือ 62.9% มีแฟนอายุมากกว่าตนเอง อายุเฉลี่ยของผู้ชายที่ 20-30 ปี โดยคุณแม่วัยใสส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุด 12.5% มัธยมศึกษาตอนปลาย 7.7% ประถมศึกษา 3.1%

ผลการวิจัยยังบ่งชี้ว่าคุณแม่วัยใสส่วนใหญ่ไม่คุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกและเกือบสองในสามไม่ตั้งใจตั้งครรภ์ซึ่งสะท้อนปัญหาการป้องกันที่ไม่ดีพอ ขณะเดียวกันในระยะหลังได้ปรากฏข่าวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการมีพฤติกรรมรุนแรงและการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่มวัยรุ่นซึ่งมีคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงที่ยังเป็นคุณแม่วัยใส จึงทำให้ผู้คนในสังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาคุณแม่วัยใสและตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวมากขึ้น และได้เรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการแก้ไขป้องกันปัญหาดังกล่าว ทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องครอบคลุมเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ของพ่อแม่ผู้ปกครองให้มากขึ้น ตลอดจนการสอดส่องดูแลการใช้สื่อสังคมออนไลน์และการเข้าถึงสื่อออนไลน์ต่างๆของกลุ่มวัยรุ่น ดังนั้น ในโอกาสจะใกล้ถึงวันแม่ประจำปี พ.ศ. 2561 สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปต่อประเด็นคุณแม่วัยใสกับปัญหาในสังคมไทย

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดซึ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.92 เพศชายร้อยละ 49.08 อายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถสรุปผลได้ดังนี้ สำหรับสาเหตุสำคัญ 5 อันดับสูงสุดที่นำไปสู่การเป็นคุณแม่วัยใสตามความคิดเห็นของลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ความคึกคะนอง/อยากลองคิดเป็นร้อยละ 86.79 มีเจตนา/ตั้งใจไม่ป้องกันคิดเป็นร้อยละ 84.87 การเข้าถึงสื่อลามกอนาจารได้ง่ายคิดเป็นร้อยละ 82.69 ถูกเพื่อนฝูงชักจูง/ทำตามเพื่อนคิดเป็นร้อยละ 80.77 และสภาพความเป็นอยู่ภายในชุมชนที่พักอาศัยมีความเสี่ยงคิดเป็นร้อยละ 78.34

ด้านความคิดเห็นต่อระบบการติดต่อพูดคุยสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์กับปัญหาคุณแม่วัยใส กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 71.24 มีความคิดเห็นว่าระบบการติดต่อพูดคุยสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์มีส่วนเพิ่มจำนวนคุณแม่วัยใสในสังคมไทยให้มากขึ้นได้ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 21.15 มีความคิดเห็นว่าไม่มีส่วน และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 7.61 ไม่แน่ใจ

ด้านความคิดเห็นต่อเด็กที่เกิดจากกลุ่มคุณแม่วัยใส กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55.18 เห็นด้วยว่าเด็กที่เกิดจากคุณแม่วัยใสเมื่อโตขึ้นจะมีแนวโน้มก่อปัญหาในสังคม เช่น ติดยาเสพติด มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อความรุนแรง เป็นต้น ได้มากกว่ากลุ่มเด็กที่เกิดจากคุณแม่ที่มีอายุสูงกว่ากลุ่มคุณแม่วัยใส ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 35.79 ไม่เห็นด้วย ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 9.03 ไม่แน่ใจ

ด้านแนวทางการลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยนั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.66 มีความคิดเห็นว่าการกำหนดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามออกนอกเคหะสถานตอนกลางคืนจะไม่มีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยได้จริง

ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างประมาณสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 75.08 มีความคิดเห็นว่าการตำหนิ/ต่อว่า/ดูถูก/ไม่ให้โอกาสในสังคมกับกลุ่มคุณแม่วัยใสจะไม่มีส่วนช่วยกดดันให้กลุ่มคุณแม่วัยใสในสังคมไทยลดจำนวนลงไปในอนาคตได้จริง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 68.73 มีความคิดเห็นว่าหากกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษารวมถึงวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรลงไปในบทเรียนให้มากขึ้นกว่าในปัจจุบันจะมีส่วนช่วยลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยลงได้ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 60.28 มีความคิดเห็นว่าการนำเสนอละคร/ภาพยนตร์/สารคดีสะท้อนปัญหาการเป็นคุณแม่วัยใสผ่านสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยลงได้

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบการบังคับใช้มาตรการเพื่อช่วยลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทระหว่างมาตรการทางกฎหมาย/จารีตประเพณีเพื่อควบคุมการติดต่อพบปะพูดคุยของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงกับมาตรการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์และการป้องกัน กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 51.17 มีความคิดเห็นว่าควรบังคับใช้ทั้งสองมาตรการควบคู่กันจะช่วยลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยได้ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 29.3 มีความคิดเห็นว่าควรใช้มาตรการให้ความรู้ความเข้าใจมากกว่า โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 19.73 มีความคิดเห็นว่าควรบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย/จารีตประเพณีมากกว่า

กลุ่มบุคคลที่มีส่วนช่วยลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยลงได้มากที่สุด 5 กลุ่มตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง คือ พ่อแม่ผู้ปกครอง/ญาติพี่น้องคิดเป็นร้อยละ 85.87 เพื่อนฝูงคิดเป็นร้อยละ 83.61 ครูอาจารย์คิดเป็นร้อยละ 81.52 ผู้คนภายในชุมชนที่พักอาศัยคิดเป็นร้อยละ 78.93 และกลุ่มคุณแม่วัยใสคิดเป็นร้อยละ 75.17 (อ่านข่าวต่อ https://bit.ly/2P12I7c)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง