เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิด M-MINVOL ลงทุนหุ้นพื้นฐานดีในตลาดหุ้นไทย มุ่งสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความผันผวนต่ำ เสนอขายครั้งแรกวันนี้-28 สิงหาคม 2561

จันทร์ ๒๐ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๐๓
เอ็มเอฟซีมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง ส่งกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มินิมั่ม โวลาติลิตี้ หุ้นทุน (M-MINVOL) ลงทุนในตราสารทุนของกิจการที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์ฯ คัดสรรหุ้นโดยมุ่งสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความผันผวนต่ำ เสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้-28 สิงหาคม 2561

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มินิมั่ม โวลาติลิตี้ หุ้นทุน (M-MINVOL) มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะลงทุนในหุ้นทุนของกิจการที่มีปัจจัยพื้นฐานดีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งกองทุนมีเป้าหมายให้ความผันผวนที่คาด (expected volatility) ของพอร์ตการลงทุนอยู่ในระดับต่ำ จึงคัดสรรหุ้นที่จะลงทุนจากการพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น หลักทรัพย์ที่มีความเคลื่อนไหวของราคาเมื่อเทียบกับ SET Index ต่ำ (ค่า Beta) หลักทรัพย์ที่มีค่าความผันผวนต่ำ (ค่า standard deviation) สภาพคล่องของหลักทรัพย์แต่ละตัว และการกระจายการลงทุน เป็นต้น โดยมีการปรับสัดส่วนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ความเสี่ยงของกองทุนโดยรวมจึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าตลาดเนื่องจากมีความผันผวนต่ำกว่า และหุ้นที่มีความผันผวนต่ำมักเป็นบริษัทที่ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง โดยไม่พึ่งพิงกับสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ความเสี่ยงตามวัฏจักรธุรกิจต่ำ แต่มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลสูง นอกจากนี้หากอยู่ในช่วงตลาดขาลงจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตและเหมาะกับตลาดที่อ่อนไหวมีความผันผวนสูง

สำหรับส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารทุนอื่นๆ ตราสารแห่งหนี้ เงินฝากธนาคาร หลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่คณะกรรมการก.ล.ต. กำหนด หรือสำนักงานประกาศกำหนด รวมทั้งอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละขณะเพื่อผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

จากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี มองว่ามีปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยคือ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย และอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศอยู่ระดับต่ำ นอกจากนี้ภาครัฐยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศ และการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2562 จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ มาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ เป็นความเสี่ยงต่อการค้าระหว่างประเทศและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED ที่เร็วและแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมไปถึงราคาน้ำมันที่อ่อนตัวและมีความผันผวน อาจทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวและบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสปรับลดประมาณการณ์ผลกำไรลง

สำหรับกองทุนเปิด M-MINVOL เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถลงทุนในระยะปานกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ และสามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนไปลงทุน ซึ่งอาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้ ทั้งนี้ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

หลังการเสนอขายครั้งแรก กองทุนเปิด M-MINVOL จะเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ และบริการซื้อหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือสาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014 สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-218-480-82 สาขาภูเก็ต โทร.076-307-070 สาขาระยอง โทร. 033-100-340-2 สาขาพิษณุโลก โทร. 055-008-980-2 สาขาอุบลราชธานี โทร.045-422-890-2 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 - 25 หรือที่ www.mfcfund.com หรือผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด