สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม “กันน็อก กันนะ” รณรงค์สวมหมวกกันน็อก 100 %

พฤหัส ๒๓ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๓๕
สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม "การรณรงค์สถานศึกษา(อาชีวะ) ร่วมใจสวมหมวกกันน็อก 100% ปี 2561" นำร่องในสถานศึกษาอาชีวะ 6 แห่ง มุ่งลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ

นายสุราษฎร์ เจริญชัยกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานคร ด้านมหานครปลอดภัย ในปี 2561 นี้ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร นำร่องจัดกิจกรรม "การรณรงค์สถานศึกษา (อาชีวะ) ร่วมใจสวมหมวกกันน็อก 100%"ในสถานศึกษาอาชีวะจำนวน 6 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 1.วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี 2.วิทยาลัยพาณิชยการบางนา 3.วิทยาลัยเทคโนโลยีปทีปพลีผล 4.วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร 5. วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์ฯ และ 6.วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) เพื่อให้ความรู้เรื่องการเลือกและสวมหมวกกันน็อกที่ถูกต้อง และสร้างความตระหนักในการขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับนักศึกษา เนื่องจากพบว่ากลุ่มคนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15-29 ปี และพบว่าประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่คือ รถจักรยานยนต์ โดยสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มชื่นชอบรถจักรยานยนต์ และนิยมใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการเดินทาง ทั้งนี้การสวมหมวกกันน็อกจะช่วยลดอาการบาดเจ็บที่รุนแรงหากเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหมวกกันน็อกมีคุณสมบัติพิเศษสามารถยืดหยุ่นได้เมื่อถูกกระแทก จึงช่วยดูดซับและกระจายแรงไม่ให้ส่งไปยังสมองของผู้ประสบอุบัติเหตุ ขณะที่วัสดุภายนอกมีความแข็งแรง จะช่วยปกป้องศีรษะไม่ให้กระแทกกับพื้นถนนโดยตรง จึงช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ"

ด้านนายธนันท์ชัย เมฆประเสริฐวนิช ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "การสวมหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐานและถูกวิธี จะช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะได้ร้อยละ 72 และลดการเสียชีวิตได้ ร้อยละ 39 เมื่อประสบอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเดินทางในระยะใกล้หรือไกล การเลือกใช้หมวกกันน็อกควรใช้หมวกกันน็อกแบบเต็มใบที่มีขนาดพอดีกับศีรษะ

มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมวกมีน้ำหนักไม่มากเกินไป รวมถึงมีสีสันสดใส จะช่วยให้ผู้ขับรถคนอื่นมองเห็นอย่างชัดเจนในระยะไกล การสวมหมวกกันน็อกในลักษณะหน้าตรง ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง คาดสายรัดคางและปรับความตึงให้กระชับใต้คาง สายไม่พลิก บิดหรือหย่อน รวมถึงกระชับเพียงพอที่หมวกนิรภัยจะไม่หลุดออกจากศีรษะเมื่อประสบอุบัติเหตุ จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ "

ข้อควรระวังในการใช้หมวกกันน็อก ควรเปลี่ยนหมวกกันน็อกทุก ๆ 3-5 ปี หรือภายหลังที่หมวกนิรภัยกระแทกพื้นหรือของแข็งอย่างรุนแรง เพราะวัสดุภายในหมวกกันน็อกจะเสื่อมสภาพและไม่สามารถรองรับแรงกระแทกได้

เมื่อประสบอุบัติเหตุ สวมหมวกกันน็อกและคาดสายรัดคางทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ พร้อมใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเป็นระดับความเร็วที่หมวกกันน็อกรองรับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง