สยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ เผย “73.06% เชื่อการเพิ่มโทษผู้ไม่มีหรือไม่พกใบขับขี่จะเปิดช่องทางให้ตำรวจทำผิดได้มากขึ้น”

จันทร์ ๐๓ กันยายน ๒๐๑๘ ๐๙:๑๙
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) แถลงผลการสำรวจ "ความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปต่อการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่กับการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน" สำรวจระหว่างวันที่ 25 ถึง 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,158 คน

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยจากสถิติของกรมทางหลวงระบุว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 (มกราคม – มิถุนายน) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงทั่วประเทศทั้งหมด 8,839 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,449 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 8,141 คน

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2560 พบว่า จำนวนอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ทั้งนี้ สถิติดังกล่าวยังไม่รวมอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนสายรองและบนถนนที่นอกเหนือเขตความรับผิดชอบของกรมทางหลวง

ขณะเดียวกันรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามกำหนดมาตรการต่างๆออกมาบังคับใช้เพื่อช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุและลดความสูญเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางถนน โดยมาตรการล่าสุด คือ การเสนอให้เพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะทั้งการไม่มีใบอนุญาตขับขี่และการไม่พกใบอนุญาตขณะขับขี่ ซึ่งกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมกันอย่างกว้างขวาง โดยผู้คนในสังคมมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก คือ การกำหนดอัตราค่าปรับซึ่งผู้คนในหลายภาคส่วนมีความคิดเห็นว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงมาก ขณะที่ผู้คนอีกจำนวนหนึ่งเสนอแนวคิดให้ควรมีการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับการทำผิดกฎจราจรขณะขับขี่และเพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตขับขี่แทน จากประเด็นดังกล่าว สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปต่อการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่กับการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.35 และเพศชายร้อยละ 49.65 สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความคิดเห็นต่อการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบอนุญาตหรือไม่พกใบอนุญาตนั้น กลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 74.53 เห็นด้วยกับการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบอนุญาต/ไม่พกใบอนุญาตขณะขับขี่ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 18.48 ไม่เห็นด้วย ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.99 ไม่แน่ใจ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 59.24 มีความคิดเห็นว่าการกำหนดค่าปรับสำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ไม่มีใบอนุญาตให้ถูกปรับไม่เกิน 50,000 บาท และถูกปรับไม่เกิน 10,000 บาทสำหรับผู้ที่ไม่พกใบอนุญาตขณะขับขี่ยานพาหนะนั้นสูงเกินไป ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 31.52 มีความคิดเห็นว่าไม่สูงเกินไป ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 9.24 ไม่แน่ใจ

สำหรับความกังวลต่อหากมีการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบอนุญาตหรือไม่พกใบอนุญาต กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73.06 กังวลว่าหากมีการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบอนุญาต/ไม่พกใบอนุญาตขณะขับขี่จะกลายเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีดไถ/เรียกรับเงินจากผู้ขับขี่ยานพาหนะโดยไม่มีการออกใบสั่ง/จับกุมตามกฎหมายได้มากขึ้น

ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.45 เชื่อว่าหากมีการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบอนุญาต/ไม่พกใบอนุญาตขณะขับขี่จะทำให้มีผู้ขับขี่ยานพาหนะติดสินบน/ชำระค่าปรับโดยไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกใบสั่ง/จับกุมตามกฎหมายมากขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 51.12 มีความคิดเห็นว่าหากมีการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบอนุญาต/ไม่พกใบอนุญาตขณะขับขี่จะไม่มีส่วนช่วยลดจำนวนผู้ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนที่ไม่มีใบอนุญาตลงได้จริง

ในด้านความคิดเห็นต่อการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะกับการลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนน กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.06 เชื่อการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบอนุญาต/ไม่พกใบอนุญาตขณะขับขี่ให้สูงขึ้นจะช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนได้บางส่วน โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 8.03 เชื่อว่าช่วยลดจำนวนได้มาก ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 37.91 ไม่เชื่อว่าลดจำนวนอุบัติเหตุได้เลย

เมื่อเปรียบเทียบวิธีการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนระหว่างการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะกับการเพิ่มความเข้มงวดรัดกุมในการขอใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะ กลุ่มตัวอย่างประมาณครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 50.86 ระบุว่าการเพิ่มความเข้มงวดรัดกุมในการขอใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะเป็นวิธีการที่มีส่วนช่วยได้มากกว่า ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 38.17 ระบุว่าต้องใช้ทั้งสองวิธีควบคู่กัน โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 10.97 ระบุว่าการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะเป็นวิธีที่มีส่วนช่วยได้มากกว่า

และเมื่อเปรียบเทียบวิธีการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนระหว่างการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับการขับยานพาหนะผิดกฎจราจร เช่น ขับย้อนศร ขับบนบาทวิถี แซงในที่คับขัน ใช้ความเร็วเกินกำหนด เป็นต้น กับการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 60.1 ระบุว่าการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับการขับยานพาหนะผิดกฎจราจร เช่น ขับย้อนศร ขับบนบาทวิถี แซงในที่คับขัน ใช้ความเร็วเกินกำหนด เป็นต้น เป็นวิธีการที่มีส่วนช่วยได้มากกว่า ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.22 ระบุว่าใช้ทั้งสองวิธีควบคู่กัน โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 9.67 ระบุว่าการเพิ่มบทลงโทษเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะเป็นวิธีการที่มีส่วนช่วยได้มากกว่า ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าว (อ่านข่าวเพิ่มเติม : https://bit.ly/2C7YgBc)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง