เอ็นไอเอ เปิดตัว “สถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม” ตั้งเป้าติดเทอร์โบประเทศไทยก้าวไกลด้วยอนาคตศาสตร์

พฤหัส ๓๐ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๒:๕๘
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จัดตั้งสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม หรือ Innovation Foresight Institute – IFI เพื่อให้เป็นหน่วยงานเฉพาะด้านอนาคตศาสตร์ ที่จะช่วยการคาดการณ์ทิศทางอนาคตของประเทศไทยในมิติต่างๆ โดยวางเป้าหมายสำคัญไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1) การสนับสนุนและพัฒนาเครือข่ายนักอนาคตศาสตร์ 2) ติดตามและระบุทิศทางอนาคตของความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และชีวิตความเป็นอยู่ 3) ส่งเสริมให้เกิดการใช้เครื่องมือด้านอนาคตศาสตร์ในการวางแผนและออกแบบกลยุทธ์ในองค์กรต่างๆ และ 4) ส่งเสริมการนำข้อมูลด้านอนาคตศาสตร์ไปใช้กำหนดข้อเสนอแนะ นโยบาย และกิจกรรมเพื่อการพัฒนาที่สอดรับความเปลี่ยนแปลง

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบหลักที่จะช่วยพลิกโฉมอนาคตทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากปัจจุบันสามารถระบุโจทย์ทางเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการพลิกโฉมอนาคตได้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะสามารถดำเนิน การจัดสรรทรัพยากรสำหรับการวิจัยและพัฒนาในหัวข้อเป้าหมายเหล่านั้น เพื่อให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

จากความสำคัญดังกล่าวจึงเป็นที่มาของกระบวนการ "มองอนาคต" ซึ่งได้รับการยอมรับในหลายประเทศว่าเป็นเครื่องมือในการกำหนดทิศทางการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบบมุ่งเป้า ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเปล่าของการลงทุนทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ทั้งนี้ ปัจจุบันหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ตุรกี สวีเดน เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ได้มีการจัดตั้งโครงการ/ศูนย์/สถาบัน ที่ดำเนินการมองอนาคตอย่างเป็นกิจลักษณะ เพื่อให้ได้ข้อมูลหรือภาพอนาคตที่จะนำไปช่วยกำหนดทิศทางการพัฒนาของประเทศ ซึ่งประเทศไทยเองก็จำเป็นต้องมีการดำเนินตามแนวทางดังกล่าวเพื่อให้หลากหลายกิจกรรมมีการพลิกโฉมได้เหมือนกับประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นเดียวกัน

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวต่อว่า NIA จึงได้ริเริ่มการจัดตั้งสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม (Innovation Foresight Institute – IFI) ขึ้น โดยกำหนดบทบาทให้เป็นสถาบันเฉพาะทางเพื่อช่วยในการคาดการณ์ความเป็นไปได้ของอนาคตที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะทิศทางนวัตกรรมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงยังสามารถช่วยในการกำหนดทิศทางและการวางแผนระยะยาวที่สามารถเอื้อประโยชน์สูงสุดให้กับระบบเศรษฐกิจและการดำเนินกิจกรรมเพื่อการพัฒนาด้านต่างๆ ในระดับประเทศ โดยมียุทธศาสตร์การดำเนินงาน 3 หลัก ดังนี้

- ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาเครือข่ายนักอนาคตศาสตร์ (Futurist Enablers) มีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายกลุ่มนักอนาคตศาสตร์ที่เชี่ยวชาญ และเข้มแข็ง

- ยุทธศาสตร์ที่ 2 ศึกษาภาพและแนวโน้มอนาคต (Trend Setter) โดยเฉพาะแนวโน้มที่สร้างผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงเศรษฐกิจและสังคม

- ยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริมการใช้ประโยชน์เพื่อนวัตกรรม (Enterprise Innovation) ผ่านเครื่องมือการจัดการนวัตกรรม เครือช่ายผู้ประเมินนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางนวัตกรรมให้กับกลุ่มธุรกิจ

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้หลายภาคส่วนมีความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการมองอนาคตอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ในช่วงตลอดสัปดาห์ของปลายเดือนสิงหาคม (27-31 สิงหาคม) นี้ NIA ยังได้จัด Thailand Future Week 2018: Towards Inclusive Future ครั้งแรกของประเทศไทยที่รวบรวมนักอนาคตศาสตร์ นักยุทธศาสตร์ นักวางแผนและนักธุรกิจเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่จะพลิกโฉมอนาคตของประเทศไทยและองค์กรให้ก้าวทันกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลง การออกแบบอนาคตประเทศ อนาคตระบบนวัตกรรม อนาคตองค์กรธุรกิจ อนาคตสังคม รวมถึงยังได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำ เช่น เครือข่ายนักอนาคตศาสตร์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก องค์การสหประชาชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคธุรกิจเอกชน เปิดเวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ผ่านหัวข้อต่างๆ เช่น นวัตกรรมแห่งการสร้างองค์กรแห่งอนาคต Towards National Innovation System 2030 เพื่อนำเสนอภาพอนาคตทิศทางการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ เป็นต้น

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-0175555 เว็บไซต์ www.nia.or.th หรือ facebook.com/niathailand

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๓๑ โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภัยเงียบอันตรายที่พร้อมคร่าชีวิต
๑๓:๕๗ FTI เปิดเกมลุย! ดันผลงานโตไม่หยุด
๑๓:๕๓ โฮมโปร x เมกาโฮม ทุ่ม 300 ล้านบาท เปิดตัวโมเดลไฮบริด 'ครบ จบ เรื่องบ้าน x งานช่าง' จ. อุดรธานี เพิ่มความหลากหลายรองรับตลาดอีสานเหนือโตต่อเนื่อง
๑๓:๕๙ วัดชีพจรตลาดอสังหาฯ อาเซียนปี 67 คนยังอยากมีบ้าน แม้เผชิญอุปสรรค ดอกเบี้ยสูง - ขาดสภาพคล่อง
๑๓:๑๙ ยิบอินซอย ตอกย้ำความสำเร็จคว้ารางวัล Red Hat's CY23 Top Innovation Partner of the year
๑๓:๐๖ ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ส่งโปรแรงกลางปี กับแคมเปญ 5.5 MEGA SALE
๑๓:๒๑ CPF ชูเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
๑๓:๔๙ PDPC เผย 3 ช่องทาง เปิดกว้างประชาชนเคลียร์ทุกข้อสงสัย PDPA หลังตอบข้อหารือแล้วเสร็จ 4,540 เรื่อง ย้ำทุกคนมีสิทธิตั้งคำถามเกี่ยวกับกฎหมาย
๑๓:๑๑ อิ่มไม่อั้น มา 4 จ่าย 3! กับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ Steak Night ทุกคืนวันเสาร์ ณ ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย สเต็ก โรงแรมคลาสสิค คามิโอ
๑๒:๑๕ โฮมโปร โกยรายได้ Q1/67 แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท ฟันกำไร 1.7 พันล้าน รับอนิสงค์ Easy E-Receipt หนุน