การแข่งขันรายการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแข่งขันชิงความเป็นเลิศของวงการกีฬาแบดมินตันในประเทศไทย ซึ่งผลการแข่งขันจะเป็นการเก็บสะสมคะแนนเพื่อจัดอันดับนักแบดมินตันของประเทศไทย และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักแบดมินตันไทยในทุกระดับได้ทดสอบฝีมือกันเพื่อชิงความเป็นเลิศของประเทศไทย
ประเภทของการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทชายเดี่ยว, ประเภทหญิงเดี่ยว, ประเภทชายคู่, ประเภทหญิงคู่ และประเภทคู่ผสมพร้อมกับจะมีสิทธิพิเศษไวลด์การ์ดในแต่ละประเภทไม่เกิน 4 คน/คู่ โดยพิจารณาจาก นักกีฬาที่คว้าแชมป์กีฬาแห่งชาติครั้งล่าสุด (ประเภทบุคคล),นักกีฬาที่คว้าแชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งล่าสุด (ประเภทบุคคล), นักกีฬาที่คว้าแชมป์ และรองแชมป์รายการ เอสซีจี จูเนียร์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ รุ่นไม่เกิน 19 ปี ครั้งล่าสุดอีกด้วย
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเป็นนักกีฬาสัญชาติไทย ไม่จำกัดภูมิลำเนา และต้องเป็นนักกีฬาที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งจะต้องไม่อยู่ในระหว่างการถูกลงโทษห้ามเข้าร่วมการแข่งขันจากสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิลยูเอฟ) โดยการแข่งขันจะยึดใช้กติกาการแข่งขันของสหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิลยูเอฟ) ฉบับล่าสุด
การแข่งขัน "เอสซีจี ออลล์ ไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2018" จะย้ายสังเวียนมาชิงชัยกันที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะจ.นนทบุรี ช่วงระหว่างวันที่ 2-7 ตุลาคม 2561
สำหรับรางวัลในการแข่งขันผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานครบทั้ง 5 ประเภท พร้อมเหรียญรางวัล และเงินรางวัลแต่ละประเภท ดังนี้ ประเภทชายเดี่ยว และประเภทหญิงเดี่ยว ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท, รองชนะเลิศ 50,000 บาท, ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศคนละ 15,000 บาท ขณะที่ประเภทชายคู่, ประเภทหญิงคู่ และประเภทคู่ผสม คู่ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 120,000 บาท, คู่รองชนะเลิศ 60,000 บาท และคู่แพ้รอบรองชนะเลิศ20,000 บาท รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 1,020,000 บาท
ย้อนกลับไปการแข่งขันเมื่อปีก่อนมีความสนุกตื่นเต้นเร้าใจเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งในประเภทชายเดี่ยว "กัน" กันตภณ หวังเจริญ นักตบลูกขนไก่ดาวรุ่งทีมชาติไทย โค่นรุ่นพี่อย่าง "สอง" ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ก้าวขึ้นมาหยิบแชมป์สมัยแรกให้กับตัวเองได้สำเร็จ ก่อนที่ต่อมากันตภณจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมแบดมินตันทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่ผ่านมา
ขณะที่ประเภทหญิงเดี่ยว "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ อีกหนึ่งนักตบลูกขนไก่สาวดาวรุ่งไทย โค่นเอาชนะรุ่นพี่อย่าง "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ทำให้พรปวีณ์ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน เทียบเท่ากับ บุศนันทน์ ที่มีดีกรีแชมป์เก่า 2 สมัยในปี 2556, ปี 2558 เช่นกัน
ประเภทคู่ผสม "บาส"เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่นักตบมือแกร่งของไทยสามารถป้องกันแชมป์สมัยที่ 3 ได้สำเร็จหลังจาก ตบชนะ บดินทร์ อิสสระ และสาวิตรี อมิตรพ่าย ก่อนที่ในประเภทหญิงคู่ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ยังคว้าแชมป์รายการที่สองให้ตัวเองหลังจับคู่กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล ตอกย้ำความแข็งแกร่งเหนือ จงกลพรรณ กิติธรากุล-รวินดา ประจงใจ ทำให้คว้าแชมป์สมัยที่สองไปครองได้เช่นกัน
ด้านประเภทชายคู่ "อาร์ท" บดินทร์ อิสสระ ที่จับคู่เล่นกับ "ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ดวลเดือดก่อนเอาชนะ กิตติศักดิ์ นามเดช และติณณ์ อิสริยะเนตร สองนักตบรุ่นน้อง ทำให้บดินทร์ และนิพิฐพนธ์ คว้าแชมป์ร่วมกันเป็นสมัยแรก รวมทั้งนับเป็นแชมป์ชายคู่สมัยที่ 4 ของบดินทร์ และนับเป็นแชมป์ชายคู่สมัยที่ 3 ของนิพิฐพนธ์
การชิงแชมป์ที่ดุเดือดเมื่อปีก่อนแสดงให้เห็นชัดเจนว่า รายการนี้เป็นการรวมตัวกันของสุดยอดนักตบพระกาฬของเมืองไทยเลยทีเดียว
การแข่งขันเอสซีจีแบดมินตันชิงชนะเลิศประเทศไทย "เอสซีจี ออลล์ ไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2018" เป็นที่น่าจับตาว่า บรรดาแชมป์เก่าในแต่ละประเภทจะสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้อีกสมัยหรือไม่ เพราะมือระดับท็อปในแต่ละประเภทต่างมีฝีมือสูสีกันแบบสุดสุด หรือไม่แน่ปีนี้อาจจะมีดาวรุ่งดวงใหม่ฉายแสงขึ้นมาเบียดแย่งแชมป์ก็ได้ ใครจะไปรู้
มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับหนุ่มสาวขนไก่ไทยในศึก "เอสซีจี ออลล์ ไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2018" ที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 2-7 ตุลาคม 2561
หนึ่งกำลังใจของท่านอาจทำให้นักกีฬาคนหนึ่งเติบโตและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในอนาคตก็ได้?