ธอส.เผย 9 เดือนแรกปี 61 ปล่อยสินเชื่อได้ถึง 161,758 ล้านบาท

จันทร์ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๐๙:๒๒
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 ยังคงบทบาทการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่สร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านและขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 161,758 ล้านบาท 131,748 บัญชี เพิ่มขึ้น 36.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นสินเชื่อของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 79,337 ราย สินเชื่อคงค้างรวม 1,096,596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.15% จากสิ้นปี 2560 ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ระดับ 4.40% ของยอดสินเชื่อรวม คาดสิ้นปี 2561 ยอดสินเชื่อปล่อยใหม่จะสูงกว่าเป้าหมาย ซึ่งกำหนดไว้ที่ 189,000 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 ว่า ธอส. ยังคงเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสทำให้คนไทยมีบ้าน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 161,758 ล้านบาท 131,748 บัญชี เพิ่มขึ้น 36.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสามารถเพิ่มโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 79,337 ราย สะท้อนบทบาทสำคัญของ ธอส. ที่มีส่วนสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทำงานหรือผู้ที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ

ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2561 เทียบกับสิ้นปี 2560 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,096,596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.15% สินทรัพย์รวม 1,141,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.47% เงินฝากรวม 917,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 48,211 ล้านบาท คิดเป็น 4.40% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2 ซึ่งมี NPL คิดเป็น 4.41% ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ให้กลับมามีสถานะปกติเพื่อให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ต่อไป และมีกำไรสุทธิ 9,645 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ 13.87% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

"จากการเติบโตของสินเชื่อปล่อยใหม่ในไตรมาสที่ 3 โดยเฉพาะในส่วนของวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่มีจำนวนถึง 79,337 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 19.75% สะท้อนให้เห็นว่า ธอส. ได้มีบทบาทส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีบ้านเป็นของตนเอง ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงที่ธนาคารได้พิจารณาภายใต้มาตรฐานสินเชื่อที่เหมาะสม โดยไม่ส่งเสริมให้ประชาชนก่อหนี้เกินความจำเป็นเพราะอาจมีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าได้ในอนาคต และมั่นใจว่า ณ สิ้นปี 2561 ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อสูงกว่าเป้าหมายซึ่งกำหนดไว้ที่ 189,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงท้ายปีจะมีแรงกระตุ้นกำลังซื้อจากผู้ประกอบการที่ทำโปรโมชันพิเศษเพื่อเร่งปิดยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย"นายฉัตรชัยกล่าว

นายฉัตรชัย ยังกล่าวด้วยว่า จากความสำเร็จในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของธนาคาร ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2561 ธอส. ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติที่สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง : รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น หรือ SOE Award 2561 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง จำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น กลุ่มรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ รางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาดีเด่น ด้านการยกระดับการบริหารจัดการองค์กร(โครงการพี่เลี้ยง) และ รางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ประเภทเชิดชูเกียรติ(โครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพ) และยังได้รับคะแนนประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ที่ 99.55 คะแนน สูงสุดเป็นอันดับ 1 จากหน่วยงานที่เข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้น 426 หน่วยงาน ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และถือเป็นการได้คะแนนสูงสุดอันดับ 1 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

สำหรับการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยพร้อมกับการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและให้บริการลูกค้ามุ่งสู่การเป็น Dynamic Moving Bank ด้วยการ Kick Off การดาวน์โหลด Mobile Application : GHB ALL แอปเดียวครบจบ รวมทุกบริการ ธอส. ไว้ในมือคุณ ซึ่งเริ่มเปิดให้ลูกค้าประชาชนดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าประชาชนในการทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิทัลได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ทุกที่ ทุกเวลา โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในเดือนมกราคม 2562 จะมีจำนวนธุรกรรมทางการเงินผ่าน GHB ALL จำนวน 500,000 ธุรกรรม และเพิ่มเป็น 70% ของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดภายในปี 2562

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว