“ TPLAS ” วางกลยุทธ์ เล็งสร้างฐานรายได้ใหม่เจาะตลาด AEC – สร้างแบรนด์ –พัฒนาสินค้า เพิ่ม

อังคาร ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๓:๕๑
บมจ. ไทยอุตสาหกรรม(1994) หรือTPLAS เดินหน้าปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ เร่งขยายตลาดไปยัง กลุ่มประเทศAEC เล็งสร้างฐานรายได้ต่อยอดทางธุรกิจ พร้อมเร่งสร้างแบรนด์ และ พัฒนาสินค้า ให้ติดตลาดมากขึ้น ด้านผู้บริหาร " ธีระชัย ธีระรุจินนท์ " เตรียมเจาะตลาดตามห้างสรรพสินค้า - โรงแรม และกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร มากขึ้น

นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารประเภท Polypropylene (PP), ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้วประเภท High Density Polyethylene (HDPE) ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ "หมากรุก" และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหารPolyvinyl Chloride (PVC) ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ "Vow Wrap"เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อขยายช่องทางธุรกิจ และกระจายความเสี่ยงของรายได้ ให้สอดรับกับนโยบายของบริษัทฯ โดยบริษัทฯมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างแบรนด์สินค้า ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมทั้งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร ที่ต้องการเก็บรักษาสินค้าและวัตถุดิบ ให้อยู่ได้นาน รวมถึงเจาะตลาดตามห้างสรรพสินค้า และโรงแรม มากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังเร่ง เพิ่มช่องทางการตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้สอดรับกับนโยบายเปิดการค้าเสรี (AEC) เนื่องจากการกลุ่มดังกล่าว มีดีมานด์ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกต่อเนื่อง ดังนั้นหาก TPLAS สามารถเข้าไปเจาะตลาดในกลุ่มAEC ได้ ก็จะส่งผลให้บริษัทฯสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของรายได้รวมได้ครบคลุมมากยิ่งขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 409.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 17.8ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.25% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2560 ที่มีรายได้รวม390.56 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.0 ล้านบาท สาเหตุที่บริษัทฯมีอัตราผลการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้ว พร้อมทั้งฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร มีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯมีการวางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มซาปั๊ว รวมถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

ส่วนไตรมาส 3/2561 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม139.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.27 ล้านบาท ลดลง 3.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.45 % เมื่อเทียบกับผลดำเนินงานงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 8.9 ล้านบาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น เม็ดพลาสติกชนิด PP HDPE และ PVC

" สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมาอาจจะซบเซา แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยจะพิจารณาจากยอดขายในงวด 9 เดือนแรก ที่มีอัตราการเติบได้ต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะ บริษัทฯ มีการบริหารจัดการที่ดี และมีการวางแผนและปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะการเจาะไปยังกลุ่มลูกค้ารายย่อยโดยตรง รวมถึงกลุ่มซาปั๊ว ทำให้บริษัทฯมีมาร์จิ้นที่ดี และสามารถลดความความเสี่ยงได้ ซึ่ง บริษัทฯอัตราการเติบโตที่สวนทิศทางตลาดของอุตสาหกรรมพลาสติกด้านบรรจุภัณฑ์ " นายธีระชัย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน
๑๗:๒๔ กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือกองปราบฯ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา งัดกฎหมายที่เกี่ยวข้องปราบผู้กระทำผิด
๑๗:๐๘ The Food School Bangkok ผนึก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ มอบทุนกว่า 1.5 ล้านบาท เปิดตัว Future Chef of the World 2025
๑๗:๐๒ NPS สนับสนุนการปรับปรุงระบบไฟฟ้า โรงเรียนวัดหลังถ้ำวิทยาคาร
๑๗:๔๑ บางจากฯ จัดโปรแรงต่อเนื่อง จันทร์สีม่วง ลดราคาเฉพาะน้ำมันกลุ่มไฮพรีเมียม ทุกวันจันทร์ ระหว่างวันที่ 5 พ.ค. 68 - 30 มิ.ย. 68
๑๗:๓๐ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมราชทัณฑ์ จัดงานรวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม
๑๗:๑๑ ผมสวยท้าร้อน BSC hair Spray บำรุงยาวนาน ด้วยสูตร Aqua Moist
๑๗:๒๘ เตรียมพบกับปรากฏการณ์ศิลปะครั้งสำคัญ @ช่างชุ่ย นิทรรศการเดี่ยวในรอบ 9 ปี ของ Linecensor ARCH OF LINECENSOR PART 1: PERFECT
๑๗:๒๐ Tastes of May ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา 3 เสาร์ 3 สไตล์ ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้
๑๗:๔๕ อิเกีย ประเทศไทย ชวนอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอน ด้วยหลากเมนูพิเศษจากแซลมอนนอร์เวย์ คัดสรรคุณภาพสดใหม่ 1-31