ทรัสต์ AIMIRT เดินหน้าขอไฟเขียวลงทุนเพิ่มในทรัพย์สินใหม่พร้อมผู้เช่าชั้นนำระดับโลก มั่นใจดันรายได้เติบโตพร้อมคาดหนุนผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับกว่า 7.9%

จันทร์ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๑:๐๗
'เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์' ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศไทย เตรียมเดินหน้าขออนุมัติผู้ถือหน่วยนำทรัสต์ AIMIRT เข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ทั้งห้องเย็น คลังสินค้า ถังเก็บสารเคมีเหลว จากผู้ประกอบการชั้นนำรวม 4 โครงการ รวมมูลค่าไม่เกิน 4,300 ล้านบาท พร้อมผู้เช่าที่มีความโดดเด่นเป็นกลุ่มบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ไทยออยล์ เอสโซ่ และโตชิบา ผลักดันขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด มั่นใจหนุนผลการดำเนินงานกองทรัสต์เติบโตอย่างมีเสถียรภาพและคาดช่วยเพิ่มผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ในระดับกว่า 7.9%

นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ 'AIMIRT' เปิดเผยว่า หลังจากกองทรัสต์ AIMIRT ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีนี้ให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่อัตรา 0.1902 บาทต่อหน่วย ซึ่งเมื่อรวมกับอีก 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ทรัสต์ AIMIRT อนุมัติจ่ายเงินปันผลไปแล้วรวมทั้งสิ้น 0.5689 บาทต่อหน่วยนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปีนี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 7.6% ต่อปี ซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นเมื่อเทียบกับกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มอุตสาหกรรม และสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ที่แข็งแกร่งจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยทรัพย์สินที่ลงทุนในปัจจุบันทั้งหมด ล้วนมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% ล่าสุดจึงเตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ เพื่อขออนุมัติการลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในอสังหาริมทรัพย์ รวมมูลค่าไม่เกิน 4,300 ล้านบาท

การขออนุมัติลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานของบริษัทฯ ที่ต้องการผลักดันขนาดทรัพย์สินและรายได้ของทรัสต์ AIMIRT ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเข้าลงทุนเพิ่มเติมในอสังหาริมทรัพย์ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial) ที่มีศักยภาพและตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเป็นที่ต้องการของผู้เช่า ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มขนาดทรัพย์สินของกองทรัสต์เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4,300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3 เท่า จากการเข้าลงทุนครั้งแรกที่มีขนาดทรัพย์สินทั้งสิ้น 2,140 ล้านบาท

นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 มีจำนวนทั้งสิ้น 4 โครงการ ได้แก่ 1. ห้องเย็นในโครงการเจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิก (ส่วนขยายเพิ่มเติม) ของกลุ่มบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) 2. คลังสินค้าโครงการ TIP 8 ของบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด 3. ถังเก็บสารเคมีเหลวและคลังสินค้าโครงการ SCC ของบริษัท สยามเฆมี จำกัด (มหาชน) และ คลังสินค้าโครงการสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ของบริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด

สำหรับทรัพย์สินทั้งหมดล้วนมีจุดเด่นและมีมาตรฐานการก่อสร้างระดับเวิลด์คลาส อีกทั้งยังตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ จึงมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำในไทยและต่างประเทศเข้ามาใช้บริการเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มบริษัทไทยออยล์ เอสโซ่ และโตชิบา เป็นต้น ซึ่งผู้เช่าเหล่านี้ล้วนเป็นผู้นำอุตสาหกรรมและมีเสถียรภาพทางการเงินที่มั่นคง นอกจากนี้ทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ยังมีการกระจายตัวอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งภาคการผลิต อาหาร ยารักษาโรค สินค้าอุปโภคบริโภค การก่อสร้าง รวมถึงการคมนาคมและโลจิสติกส์ ช่วยลดการกระจุกตัวของรายได้จากอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง

ดังนั้น จึงมีความมั่นใจว่าการขออนุมัติลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการเพิ่มศักยภาพและขนาดทรัพย์สินของกองทรัสต์ AIMIRT ให้มั่นคงและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และผลักดันรายได้ขยายตัวจากการเข้าลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

"เรามั่นใจว่าหลังเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ จะผลักดันผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน เนื่องจากเราได้คัดเลือกทรัพย์สินที่มีคุณภาพและมีศักยภาพ เพื่อประโยชน์ของกองทรัสต์และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่ 7.9% ได้" นายจรัสฤทธิ์ กล่าว

หมายเหตุ: ผลตอบแทนที่ 7.9% ต่อปี คำนวนจากประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในปีแรก และราคาปิดของหน่วยทรัสต์วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ที่ 10.40 บาทต่อหน่วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน