เพราะเหตุใด??... ฟันผุ จึงเสี่ยงติดเชื้อจนตาบอดได้

พฤหัส ๒๗ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๑๓
จากข่าวดังบนโลกโซเชี่ยลมีเดีย ในกรณีที่ฟันผุทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลามเข้าสู่ไซนัส คนไข้มีอาการตาโปน ร่วมกับการมองเห็นแย่ลง สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อบริเวณฟันได้ลุกลามเข้าสู่เนื้อเยื่อรอบลูกตาที่อยู่ภายในเบ้าตานั่นเอง เนื่องจากตำแหน่งโครงสร้างของฟันอยู่ใกล้กับบริเวณดวงตา หากมีการติดเชื้อที่ฟันหรือฟันผุ เชื้อโรคจากบริเวณฟันจะสามารถขึ้นไปถึงเบ้าตาได้หลายทางด้วยกัน เช่นผ่านไปทางเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้าขึ้นสู่เบ้าตาโดยตรง หรือเชื้อจากฟันอาจจะทะลุเข้าสู่โพรงไซนัสและผ่านเข้าสู่เบ้าตาทางช่องว่างของกระดูกที่กั้นระหว่างไซนัสกับเบ้าตา หรือเชื้ออาจจะเข้าสู่แขนงของหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้า แล้วไหลย้อนเข้าสู่บริเวณเบ้าตาจนนำไปสู่การติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนไข้ที่มีฟันผุจึงมีโอกาสติดเชื้อ

ที่เบ้าตาตามมา

ผู้ที่มีเบ้าตาติดเชื้อ จะมีอาการดังนี้ ได้แก่ ปวดตา ตาแดง เปลือกตาบวมปิด มีขี้ตามากขึ้น เยื่อบุตาขาวอาจจะบวมออกมาคล้ายวุ้น กลอกตาไม่ได้ทำให้เห็นภาพซ้อน ตาโปนมากขึ้น อาจมีตามัวลง และมีไข้ร่วมด้วยในบางราย หากการติดเชื้อเป็นรุนแรง อาจจะมีก้อนฝีหนองขึ้นมาในเบ้าตาและตาโปนมากจนดึงรั้งเส้นประสาทตาที่อยู่ด้านหลังลูกตาให้เกิดความเสียหาย และเกิดการสูญ

เสียการมองเห็นตามมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากการติดเชื้อในเบ้าตาลามเข้าสู่สมอง จะทำให้มีอาการซึมลง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

โดยทั่วไป การติดเชื้อในเบ้าตาไม่ได้เกิดจากกรณีฟันผุเพียงอย่างเดียว โดยสาเหตุหลักของการติดเชื้อในเบ้าตา มีทั้งหมด 3 ประการหลัก ได้แก่

1. การที่หนังตาหรือเปลือกตาได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บเป็นแผลและมีการติดเชื้อ ซึ่งการติดเชื้อสามารถลุกลามเข้าไปจนเกิดการติดเชื้อในเบ้าตาตามมาได้

2. การติดเชื้อที่ลามมาจากอวัยวะที่อยู่ใกล้ดวงตา นอกจากฟันผุแล้ว ที่พบได้บ่อยกว่า คือ ไซนัสอักเสบ ที่สามารถลามเข้าสู่เบ้าตาและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ถุงน้ำตาหรือต่อมน้ำตาติดเชื้อ ก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อใน

เบ้าตาตามมาได้เช่นกัน

3. การติดเชื้อที่ลามมาจากอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่ไกลจากดวงตา ก็สามารถแพร่เชื้อไปที่เบ้าตาได้โดยผ่านทางกระแสเลือด เช่น กรณีที่เป็นปอดอักเสบ , ฝีในตับหรือระบบทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ เป็นต้น ทั้งขึ้นอยู่กับสภาวะภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ความรุนแรงและปริมาณของเชื้อโรค

สำหรับการป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อที่เบ้าตา ที่เราสามารถทำได้คือ หากมีอาการของการติดเชื้อที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งในร่างกาย ควรรีบพบแพทย์และทำให้รักษาอาการติดเชื้อให้หายเร็วที่สุด หรือหากกรณีที่มีอาการของการติดเชื้อที่เบ้าตาแล้ว ควรพบจักษุแพทย์ตั้งแต่ระยะแรก เพื่อตรวจละเอียด รวมทั้งรับการรักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดดำ ในบางรายหากรุนแรงจนมีก้อนฝีหนองอาจจะต้องผ่าตัดระบายหนองออกเพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียการมองเห็นถาวรตามมา

บทความโดย : แพทย์หญิงอุษณีย์ สีพงษ์พันธ์ จักษุแพทย์เฉพาะทาง ชั้น 3 โรงพยาบาล

เวิลด์เมดิคอล ถนนแจ้งวัฒนะ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02–836-9999 ต่อ 3621-2

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๒ ดร.สุนทร และอารยา อรุณานนท์ชัยร่วมเฝ้ารับ และส่งเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
๑๒:๑๙ EY เผย ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง ชี้เป็นโอกาสของธุรกิจค้าปลีกสร้างความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี AI
๑๒:๐๕ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ร่วมกับ สวรส. เผยผลวิจัยความเสี่ยงของการถ่ายทอดเชื้อทางโลหิตบริจาค ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย
๑๒:๔๗ จังหวัดน่าน เปิดงานกาแฟ ตอกย้ำคุณภาพเมล็ดกาแฟน่าน ดีระดับประเทศ
๑๒:๓๐ กลยุทธ์สร้างคอนเนคชั่นและคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง เพิ่มข้อได้เปรียบให้ธุรกิจได้อย่างไร
๑๒:๔๒ เซ็ตเมนูมื้อกลางวันสไตล์สเปน ความอร่อยที่ต้องบอกต่อ ณ ห้องอาหารอูโนมาส โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๑๒:๐๒ W บิ๊กเชนจ์! ผถห.โหวตเพิ่มทุน 1.65 พันล้านหุ้น ขาย PP เสริมแกร่ง รับแผนปี 67 เทิร์นอะราวด์เข้าถือฟรุตต้าฯ 51% - ปลดล็อก CB แจกฟรี W-W7 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน
๑๒:๒๔ โครงการ จุฬาอารี ได้รับรางวัล Winner THE Awards Asia 2024 ประเภท Research Project of the Year
๑๒:๓๖ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.14 บาท/หุ้น
๑๒:๑๙ บอร์ด A5 ไฟเขียวออกวอร์แรนต์ A5-W4 แจกผู้ถือหุ้นเดิม