กรมบัญชีกลางเร่งเครื่องปรับระบบการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพ

ศุกร์ ๒๕ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๓:๑๒
กรมบัญชีกลางร่างหลักเกณฑ์การขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ และประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อให้ผู้รับบำนาญได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกฎหมายเกี่ยวกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับบำนาญ (ช.ค.บ.) และการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับบำนาญ (ช.ค.บ.) และการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยกรมบัญชีกลางได้ร่างหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขอรับบำเหน็จดำรงชีพที่ได้ขยายเพดานของวงเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เพิ่มอีก 100,000 บาท จากเดิมที่ให้ขอรับได้ ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 400,000 บาท เป็น ให้ขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้รับบำนาญที่มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มให้ติดต่อส่วนราชการต้นสังกัด เพื่อกรอกแบบฟอร์ม การขอรับเงินและยินยอมให้หักเงินชำระหนี้ จากนั้น กรมบัญชีกลางจะประสานความร่วมมือกับธนาคารทุกแห่ง ขอให้ธนาคารตรวจสอบข้อมูลผู้รับบำนาญที่ได้ยื่นใช้สิทธิบำเหน็จค้ำประกันในการกู้เงินกับสถาบันการเงินว่าผู้มีสิทธิ แต่ละรายที่ยื่นความประสงค์ มียอดเงินกู้คงเหลือจำนวนเท่าใด และส่งข้อมูลกลับมายังกรมบัญชีกลาง เพื่อนำข้อมูลหนี้คงเหลือมาหักกลบลบกันกับบำเหน็จดำรงชีพที่มีสิทธิได้รับ เพื่อชำระหนี้บำเหน็จค้ำประกันคืนให้กับธนาคารก่อน เช่น ในกรณียอดหนี้เกินกว่าจำนวนเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ได้รับเพิ่ม เงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำมาหักชำระหนี้ ที่คงเหลือทั้งหมด แต่ถ้ายอดหนี้ไม่เกินจำนวนเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ได้รับเพิ่ม จะนำเงินดังกล่าวไปชำระหนี้ ให้กับธนาคารก่อนแล้วจึงจะได้รับเงินส่วนที่เหลือ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบำนาญ กรมบัญชีกลางได้ขอให้ธนาคารเปิดบัญชีให้กับผู้รับบำนาญตามข้อมูลที่กรมส่งให้ โดยไม่ต้องไปติดต่อกับธนาคารด้วยตนเอง ในเรื่องของการเปิดบัญชีธนาคาร กรมบัญชีกลางจะหารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ดำเนินการผ่อนคลายเงื่อนไขนี้เช่นเดียวกับการเปิดบัญชีให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ในส่วนของผู้รับบำนาญที่ประสงค์ขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่ม ขอให้ไปติดต่อ ส่วนราชการต้นสังกัดของผู้รับบำนาญ และกรอกแบบฟอร์มการขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว กรมบัญชีกลางจะดำเนินการจ่ายเงินดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง กฎหมายดังกล่าวต้องการช่วยเหลือผู้รับบำนาญ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้คงที่ได้บรรเทาความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน