สมาคมเพื่อนชุมชน โชว์ผลงาน 8 ปี พร้อมชูนโยบายปี 62 เดินหน้าเสริมแกร่ง “ยกระดับ” ระยองสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ 3

พฤหัส ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๕:๔๔
สมาคมเพื่อนชุมชน ก้าวสู่ปีที่ 9 ผสานความร่วมมือ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ในพื้นที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จังหวัดระยอง มุ่งยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ตั้งเป้าปี 2562 ร่วมขับเคลื่อนและขยายผลจังหวัดระยองให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ 3 พัฒนาระยองสู่การเป็น "เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม" ในอนาคต

นายวริทธิ์ นามวงษ์ อุปนายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยว่า สมาคมเพื่อนชุมชน ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นบนความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด โดยมีเป้าหมายจะยกระดับความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น ด้วยการส่งเสริมด้านสุขภาพ การศึกษา สังคม และเศรษฐกิจชุมชน มุ่งเน้นการประยุกต์องค์ความรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมและการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมให้เป็นแบบอย่างทีดีกับชุมชน มาตั้งแต่ปี 2554 โดยเบื้องต้นดำเนินงานในพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ เนินพระ ห้วยโป่ง มาบตาพุด ทับมา มาบข่าพัฒนา และบ้านฉาง หรือที่เรียกว่ามาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จนถึงปัจจุบันสมาคมเพื่อนชุมชนก้าวสู่การทำงานเป็นปีที่ 9 โดยจะสานต่อปณิธาณเดิมและมุ่งเน้นการขับเคลื่อนขยายผลจังหวัดระยองสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ 3 พร้อมนี้ได้จัดให้มีการประกาศความร่วมมือและแสดงเจตนารมณ์ จากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด และหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน ในงาน "ก้าวสู่ปีที่ 9...ชวนเพื่อนก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน" งานนี้ได้รับเกียรติจากนายธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี และนายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้ช่วยผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจาก 5 บริษัทผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมฯ ซึ่งได้แก่ กลุ่ม ปตท. เอสซีจี บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย และ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) มาร่วมแสดงเจตนารมณ์โดยพร้อมเพรียงกัน และได้มีการจัดนิทรรศการเพื่อแสดงผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้นำผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยองที่ผ่านการพัฒนาภายใต้โครงการ"สมาคมเพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล"จำนวนกว่า 13 ราย มาจัดแสดงด้วย

นายวริทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา สมาคมเพื่อนชุมชน ได้จัดโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ กว่า 20 โครงการ ตามแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ผ่านตัวชี้วัด 5 มิติ ได้แก่ มิติด้านกายภาพ มิติด้านสังคม มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสิ่งแวดล้อม และมิติด้านการบริหารจัดการที่ดี ตามแนวทางของภาครัฐ โดยสมาคมเพื่อนชุมชนจะเป็นตัวกลางในการประสานและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการ และชุมชน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมในมาบตาพุดให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยความจริงใจ จริงจัง มุ่งมั่น และพร้อมแก้ปัญหาร่วมกัน ด้วยการถ่ายทอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และมุ่งหวังให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน โดยโครงการต่างๆดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการด้านการศึกษา โครงการด้านสุขภาพ การยกระดับทางเศรษฐกิจ และ การสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

โครงการด้านการศึกษา มีโครงการเพื่อนชุมชนติวเตอร์ (CPA Tutor) โครงการมอบทุนปริญญาตรีต่อเนื่องเพื่อนชุมชน ปัจจุบันมีการมอบทุนการศึกษาแล้วทั้งหมด 213 ทุน รวมตลอด 8 ปี มอบทุนการศึกษาไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการเพื่อนชุมชนคนอาชีวะ (V-Camp) และโครงการพยาบาลทุนเพื่อนชุมชน ซึ่งโครงการด้านการศึกษาเหล่านี้ สมาคมฯมีแนวคิดว่า หากเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ มีการศึกษาที่ดีก็จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งเยาวชนที่ได้รับโอกาสจากโครงการนี้จะรับรู้ถึงคุณค่าและมีจิตสำนึกรักบ้านเกิด และจะนำความรู้ที่ได้รับกลับมาตอบแทนให้กับจังหวัดระยองบ้านเกิดของพวกเขา

โครงการด้านสุขภาพ มีโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โครงการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ โครงการพยาบาลทุนเพื่อนชุมชนจำนวน 440 ทุน โดยนักเรียนทุนพยาบาลจะเข้าประจำการในโรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดระยอง ครบตามจำนวนทุนในปี 2564 โครงการยกระดับศักยภาพบุคลากร อสม. และการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์พื้นฐาน ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพให้แก่ชุมชนในพื้นที่

การยกระดับทางเศรษฐกิจ เป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของสมาคมเพื่อนชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้คนในพื้นที่สามารถสร้างอาชีพและสามารถพึ่งตนเองได้ และยกระดับเป็นจังหวัดตัวอย่างที่มีวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็งในอนาคต ซึ่งถือได้ว่าวิสาหกิจชุมชนเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญของประเทศ และเป็น 1 ใน 12 นโยบาย "ประชารัฐ" ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ามาพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าให้คนในพื้นที่ และแก้ไขปัญหาธุรกิจให้กับชุมชน ที่สำคัญยังได้สร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ภายใต้โครงการ "เพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล" ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งหมด 3 รุ่น จำนวนวิสาหกิจชุมชน 21 กลุ่ม และปีนี้เป็นรุ่นที่ 4 อยู่ในระหว่างการพัฒนา จำนวนวิสาหกิจชุมชน 8 กลุ่ม

การสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม สมาคมฯได้ส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิก โดยสมาคมฯมีนโยบายให้สมาชิกของสมาคมเพื่อนชุมชนจะต้องเข้าร่วมโครงการประเมินโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) โดยในปี 2562 สมาชิกสมาคมฯจะผ่านการรับรองครบ 100% โดยมีจำนวนโรงงานที่ผ่านการรับรองจำนวน 76 ทะเบียนโรงงาน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขกลุ่มโรงงานที่ผ่านการรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสูงที่สุดในประเทศไทย ในส่วนภาคประชาสังคมสมาคมฯได้ส่งเสริมการประเมินตามกรอบกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพนากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการ วัดเชิงนิเวศ (Eco Temple) และโรงเรียนเชิงนิเวศ (Eco School) โดยมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการคือ โรงเรียนวัดกรอกยายชา ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบ เพื่อพัฒนาสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) และเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน (Green City)

นายวริทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2562 สมาคมเพื่อนชุมชนมีแผนขับเคลื่อนและขยายผลจังหวัดระยองให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับที่ 3 (Resources Efficiency Level) หรือ การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ด้วยกลยุทธ์ SHE-WE Model หรือ ชีวี-มีสุข ซึ่งได้แก่ Social คือ สังคมมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ Health คือ คนในสังคมมีสุขภาพดี Environment คือ บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ Welfare คือ มุ่งให้คนในสังคมกินดีอยู่ดี และ Education คือ สร้างโอกาสทางการศึกษาเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเกิด และตั้งเป้า 76 โรงงานในมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ เป็น Eco Factory ครบ 100% ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโตไปพร้อม ๆ กับเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกับอุตสาหกรรมอย่างมีความสุข เพื่อพัฒนาสู่ "เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม" ในอนาคต

"ตลอด 8 ปี ของสมาคมเพื่อนชุมชน ทำให้จังหวัดระยองเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถสร้างความเข้มแข็งแก่คนในพื้นที่อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่มั่นคงในระยะยาว รวมถึงสร้างอาชีพให้แก่ชุมชนมีรายได้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้ประกอบอุตสาหกรรมในพื้นที่ นอกจากนี้เยาวชนในพื้นที่ได้รับโอกาสด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษา การเชิญติวเตอร์ชั้นนำระดับประเทศมาให้ความรู้แก่เยาวชน รวมไปถึงการดูแลพื้นที่สีเขียว และสิ่งแวดล้อม ทำให้ จ.ระยอง มีสิ่งแวดล้อมที่ดีควบคู่กับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวระยอง" นายวริทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง