นิทช์เป็นเสมือนผู้ยิ่งใหญ่ในยุคของเขา เป็นที่รู้จักดีจากประวัติที่เขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม เวียนนา แอ๊คชั่นนิสท์ (เวียนนา แอ๊คชั่น มูฟเม้น) ที่เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งในช่วงปีพ.ศ. 2503 อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักด้านการแสดงแบบจำกัดเวลากับการใช้สี ในโรงละครออร์เจี้ยน มิสเตอเรี่ยน (Orgien Mysterien Theatre) ของเขา (แปลคร่าวๆ ได้ว่าโรงละครแห่งความสนุกสนานและความลึกลับ) โดยคนกลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการใช้วัสดุที่แหกคอก เช่น ซากสัตว์ เครื่องใน และเลือด ในการแสดงในลักษณะพิธีกรรม ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นการยุแหย่ความรู้สึกของคนทั่วไป ในช่วงเวลานั้น แนวคิดของนิทช์ในการใช้วัสดุอินทรีย์บนผ้าลินินและบนผืนผ้าใบถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับวงการงานศิลป์ในยุโรป และปัจจุบันก็ยังถือเป็นก้าวสำคัญของบัญญัติด้านศิลปะเลยทีเดียว
นอกจากจะเป็นผู้ที่มีความหลงไหลในศิลปะแนวลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม นิทช์ยังมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มกุไต (Gutai) ในภาคตะวันตกที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีพ.ศ. 2493 เช่นเดียวกันกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มกุไต นิทช์เริ่มเข้าสู่การวาดภาพโดยไม่ใช้วิธีการแบบดั้งเดิม หากแต่เปลี่ยนเป็นศิลปะในรูปแบบฉับไวแทน ในนิทรรศการครั้งนี้ ผู้ชมจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับการวาดภาพในแบบของนิทช์ หรือที่เรียกว่า "ชัทบิลเดอร์" (Schuttbilder) หรือเป็นการวาดภาพด้วยการใช้ท่าทาง
ภาพวาดเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในขณะนั้น โดยมีเสียงเพลง การเต้นรับ และผู้เข้าร่วมช่วยเหลือ ซึ่งทำให้เกิดเป็นภาพวาดที่เกิดจากท่าทาง และบลาบลาบลา นั่นแหละ ในงานหลายๆ ชิ้นจะสามารถเห็นมือของศิลปินได้จากการที่ศิลปินใช้มือในการลงสีวาดภาพบนผ้าใบ แสดงความใกล้ชิดระหว่างตัวศิลปินและสื่อที่ใช้ได้อย่างชัดเจน
การฝึกฝนของนิทช์อาจจะเป็นเหมือนปริศนาสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกหัดในสายนี้ แต่นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษอย่าง เจเนซิส เบรเยอร์ พีโอริจ อธิบายไว้อย่างเข้าใจง่ายว่า นิทช์เป็นศิลปินที่มีความสวยงาม และเต็มไปด้วยความขัดแย้ง หัวรุนแรงและไม่หยี่ระต่อสิ่งรอบข้าง... การที่เขาปฏิเสธความเสแสร้ง และการควบคุมผ่านความกลัว และความแปลกแยกทางสังคมของร่างกาย เนื้อหนัง เลือด และความปลาบปลื้มนั้นเป็นสิ่งมีความเกี่ยวข้องและสำคัญยิ่งกว่า... นิทช์ยังคงเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางที่ไม่มีใครเดิน แต่ที่ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเรียนรู้"
ข้อมูลเพิ่มเติม
เฮอร์มันน์ นิทช์ (เกิดปีพ.ศ. 2481 เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย) อาศัยและทำงานอยู่ที่ปราสาทพรินเซ็นดอร์ฟ (Prinzendorf Castle) ติดแม่น้ำซาย่า ในประเทศออสเตรียตอนล่าง งานของเขามีการจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์นิทช์สองแห่งในมิสทอลบาค (Mistelbach) และ เนเปิลส์ (Naples) และที่มูลนิธินิทช์ ในเมืองเวียนนา และสามารถพบได้ในคอลเลคชั่นถาวรของพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่นานาชาติที่เป็นที่รู้จัก รวมทั้ง โมมา (MoMA), กูเกิ้นไฮม์ (Guggenheim), พิพิธภัณฑ์ เมโทโพลิแทน นิวยอร์ค (The Metropolitan Museum New York), เทท แกลเลอรี่ ลอนดอน (Tate Gallery London), เซ็นเตอร์ปอมปิดู ปารีส (The Centre Pompidou Paris), พินาโกเธค เดอร์ โมเดิร์น (Pinakothek der Moderne) ในมิวนิค และที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง
ริชาร์ต โคห์ ไฟน์ อาร์ต เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 และถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกการแนะนำศิลปะร่วมสมัยตะวันออกเฉียงใต้สู่ประเทศมาเลเซียและในภูมิภาค ทำหน้าที่ส่งเสริมศิลปินเกิดใหม่ที่มากด้วยความสามารถและให้เป็นที่ยอมรับ แกลลอรี่นำผลงานศิลปะทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มุ่งมั่นในแนวทางที่เกิดขึ้นใหม่ และสื่อที่ท้าทายความสามารถ ออกจัดแสดงโดยเป็นประจำ