เกษตรฯ ย้ำดูแลพืชและน้ำอย่างใกล้ชิด ใน 11 พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำนอกเขตชลประทาน

พฤหัส ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๔:๔๒
กรมส่งเสริมการเกษตร ย้ำเกษตรกรดูแลพืชและน้ำอย่างใกล้ชิด ใน 11 พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำนอกเขตชลประทาน แนะหันปลูกพืชใช้น้ำน้อยรายได้ดีกว่าข้าวรอบ 2

นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำนอกเขตชลประทานในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งมีน้ำไม่เพียงพอสำหรับการปลูกข้าวรอบที่ 2 (นาปรัง) กรมส่งเสริมการเกษตร วางแผนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงใน 11 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร ขอนแก่น สุโขทัย หนองบัวลำภู ศรีษะเกษ ชัยภูมิ อุทัยธานี อุตรดิตถ์ มหาสารคาม และสุพรรณบุรี ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 จนถึงปัจจุบัน เพื่อวางแนวทางให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชไร่และพืชผัก ซึ่งเป็นพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย จำนวน 104,002 ไร่ กระจายอยู่ใน 11 จังหวัด 26 อำเภอ 71 ตำบล ซึ่งขณะนี้มีการเพาะปลูกพืชไร่และพืชผักในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว 61,842 ไร่ หรือร้อยละ 60 ของแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การเพาะปลูก ตลอดจนแจ้งเตือนให้เกษตรกรติดตามข่าวสารสถานการณ์ที่เกี่ยวกับการปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งอย่างใกล้ชิด และหมั่นดูแลรักษาพืชตลอดจนความชื้นในแปลงที่ปลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสามารถดูแลรักษาพืชที่ปลูกแล้วให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามความต้องการของตลาด และไม่ได้รับผลกระทบในฤดูแล้ง นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรยังเร่งสร้างความเข้าใจ ให้ข้อมูลข่าวสารแก่เกษตรกร และให้เกษตรกรร่วมวิเคราะห์แหล่งน้ำธรรมชาติและแหล่งน้ำในไร่นา ว่าเพียงพอสำหรับปลูกพืชตามแผนหรือไม่ เพื่อแนะนำให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย ได้แก่ พืชไร่ พืชผัก ทดแทน ซึ่งรายได้ดีกว่าการปลูกข้าวรอบที่ 2

ล่าสุดในพื้นที่ตามแผนการปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชไร่และพืชผักทดแทนนาปรัง ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ 11 จังหวัด เริ่มมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว พบว่าให้ผลตอบแทนสูงกว่าการปลูกข้าวนาปรัง เช่น พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำนอกเขตชลประทานในช่วงฤดูแล้ง จ.นครสวรรค์ มีผลตอบแทนเฉลี่ย ประกอบด้วย ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1,100 กก./ไร่ คิดเป็นรายได้ 7,700 บ./ไร่ กำไรไร่ละกว่าสามพันบาท ถั่วเขียว 120 กก./ไร่ รายได้ 2,880 บ./ไร่ กำไรไร่ละกว่าพันบาท แตงโม 4,000 กก./ไร่ รายได้ 36,000 บ./ไร่ กำไรไร่ละกว่าสองหมื่นบาท เมื่อเทียบกับ ข้าวนาปรัง ที่ให้ผลผลิต 670 กก./ไร่ รายได้ 4,020 บ./ไร่ กำไรไร่ละประมาณห้าร้อยบาท จากการลงพื้นที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร พบว่า เกษตรกรที่ปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 2 พึงพอใจในผลตอบแทน เนื่องจากได้กำไรต่อไร่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรสนใจปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนข้าวนาปรัง รอบที่ 2 สามารถขอคำแนะนำและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักเกษตรอำเภอใกล้บ้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน