รศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ หัวหน้าห้องปฏิบัติการวัสดุฉลาด (SMART LAB) และคณะนักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้ร่วมมือกับ ศ.ดร. ชิเกโอะ ทานากะ มหาวิทยาลัยคานาซาวา (Kanazawa University) เปิดเผยว่า ทางห้องปฏิบัติการวัสดุฉลาดได้มีความร่วมมือกับม. คานาซาวา มาอย่างต่อเนื่อง โดยเครื่องวัดมวลกระดูกแบบพกพา ได้พัฒนาต่อยอดจากงานวิจัยเดิมเกี่ยวกับนวัตกรรมการเพิ่มจำนวนเซลล์กระดูกที่งานวิจัยนี้สำเร็จแล้ว และใช้เวลาวิจัยกว่า 2 ปี
เครื่องมือวัดมวลกระดูกแบบพกพา สามารถตรวจได้สะดวก รวดเร็ว โดยการฉายแสงแอลอีดีที่ข้อมือผู้ป่วย ในขณะที่เครื่องแบบขนาดใหญ่ตามโรงพยาบาลที่วัดมวลกระดูกเพื่อตรวจโรคกระดูกพรุนผู้ป่วยต้องนอนหรือนั่งลักษณะการทำงานเป็นการ X-ray เพื่อสแกนค่าการตรวจความหนาแน่นของกระดูก (Bone mineral density (BMD) อีกทั้งเครื่องมือยังมีเพียงบางโรงพยาบาลเท่านั้น
หลักการของเครื่องมือวัดมวลกระดูกแบบพกพานี้ ใช้หลักการของแสงแอลอีดีที่มีความยาวคลื่นเฉพาะที่มีปฎิกิริยากับแคลเซียม 2 ความยาวคลื่นเพื่อเปรียบเทียบค่า ร่วมกับเครื่องมือไดโอดที่วัดค่าความเข้มแสงที่สะท้อนหรือกระเจิงกลับ เพื่อทำให้ทราบค่าแสงที่ถูกดูดกลืนในกระดูก โดยจะต้องนำค่าแสงที่ได้ไปคำนวณเป็นค่าความหนาแน่นของกระดูกว่ามีปริมาณแคลเซียมจำนวนเท่าใด โดยได้มีการทดสอบความแม่นยำของเครื่องวัดมวลกระดูกแบบพกพานี้ กับเครื่องมือวัดมาตรฐานของโรงพยาบาลแบบ DEXA scan
มร.คานาเมะ มิอูระ นักศึกษาแลกเปลี่ยนจากประเทศญี่ปุ่น นักศึกษาปริญญาเอกทุนเพชรพระจอมเกล้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ภายใต้การดูแลของ รศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ ห้องปฏิบัติการวัสดุฉลาด (SMART LAB) ได้ต่อยอดโดยพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องมือวัดมวลกระดูก โดยใส่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และได้นำไปทดสอบกับผู้ป่วยจริงที่ศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และการทดสอบทางคลินิกโดย นพ.ธนพล ชอบเป็นไทย คณะแพทยศาสตร์และสาธารณสุข ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 500 คน เพื่อเป็นการเก็บข้อมูล ปัจจุบันสามารถเก็บข้อมูลได้กว่า 200 คน โดยจะเปรียบเทียบข้อมูลเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นกับเครื่องวัดมวลกระดูกที่ใช้อยู่ในโรงพยาบาล
แนวโน้มราคาเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นนี้ราคาเพียงหลักหมื่น ดร.ทานากะ จึงได้จัดตั้งบริษัทสตาร์ทอัพจดทะเบียนในชื่อบริษัท "ostics" เพื่อผลิตและจำหน่ายเครื่องมือวัดมวลกระดูกที่พัฒนาขึ้น และเป็นบริษัทสตาร์ทอัพแห่งแรกของมหาวิทยาลัยคานาซาวาด้วย โดยมีแผนจะจดทะเบียนในไทยร่วมกับ มจธ. และสร้างตลาดในไทยก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์มากกว่า ตั้งเป้าภายในปีนี้ออกผลิตภัณฑ์รุ่นแรกที่สามารถวัดมวลกระดูกจากกระดูกข้อมือ และวางแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นๆ ที่สามารถวัดมวลกระดูกจากบริเวณอื่นได้