นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้าผ่านนโยบาย "MTL Everyday Life Partner" บริษัทจึงเดินหน้าพัฒนาบริการด้วยนวัตกรรมและแนวคิดแบบ Outside In เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่มีความเฉพาะตัวและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยบริษัทได้เตรียมเพิ่มกองทุนรวมใหม่ 2 กองทุนรวมจากบลจ.ทหารไทย ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth (TMBGQG) และ กองทุนเปิดทีเอ็มบี Global Property (TMBGPROP) ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne จากเดิมที่มีอยู่ 32 กองทุน เพิ่มเป็น 34 กองทุน เปิดโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น ด้วยตัวเลือกจัดพอร์ตกองทุนรวมที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกระดับความเสี่ยง
"ภายใต้ภาวะความผันผวนในตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลก ประกอบกับภาวะอัตราดอกเบี้ยโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับต่ำ การสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก เมืองไทยประกันชีวิตเล็งเห็นถึงความสำคัญของการขยายโอกาสการลงทุนไปยังต่างประเทศ โดยมีมืออาชีพระดับโลกเป็นผู้บริหารจัดการ ผ่านกองทุนรวมคุณภาพจากบลจ.ทหารไทย 2 กองทุน คือ TMBGQG และ TMBGPROP เพื่อเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นในระยะยาว ตลอดจนมีส่วนให้การวางแผนการเงินผ่านประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายสาระกล่าว
ทั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิตได้คัดสรร 2 กองทุนรวมจากบลจ.ทหารไทย ซึ่งเป็น บลจ.ใหม่ล่าสุดที่เข้าร่วมนำเสนอกองทุนรวมเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ายูนิตลิงค์ของเมืองไทยประกันชีวิต ประกอบด้วย
กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth (TMBGQG) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือกองทุน Wellington Global Quality Growth Fund ในหน่วยลงทุนชนิด USD Class S Accumulating Unhedged ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักจะมุ่งหาผลตอบแทนระยะยาว ผ่านการกระจายการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่เติบโตอย่างมีคุณภาพทั่วโลก
กองทุนเปิดทีเอ็มบี Global Property (TMBGRPOP) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือกองทุน Brookfield Global Listed Real Estate UCITS Fund (Class E) โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างผลตอบแทนโดยรวมจากการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์และกระแสรายได้ (capital and current income) ผ่านการลงทุน
ในหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ทั่วโลกหรือหุ้นของบริษัทพัฒนาหรือบริหารอสังหาริมทรัพย์พื้นฐานดีที่จดทะเบียนทั่วโลก อาทิ กลุ่มอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า คลังสินค้า เป็นต้น
นายสาระกล่าวเพิ่มเติมว่า "mDesign และ mOne เป็นประกันชีวิตควบการลงทุนหรือยูนิตลิงค์ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเก็บออมระยะยาว ที่ต้องการความคุ้มครองพร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมคุณภาพที่เลือกสรรโดยบริษัท เพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคตด้วยแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นสูง ปรับเปลี่ยนได้ตามจังหวะชีวิต ขณะเดียวกันก็ยังสามารถถอนเงินลงทุนบางส่วนจากกรมธรรม์หรือเลือกหยุดพักชำระเบี้ยได้ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายและตรงจุดไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ และการวางแผนส่งต่อหลักประกันให้ลูกหลาน"
ทั้งนี้ กองทุนรวมที่ขยายทางเลือกเพิ่มขึ้นนั้น จะเริ่มเปิดขายควบกับประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2562 ผู้สนใจสามารถติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1766
หมายเหตุ – เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
– การพิจารณารับประกันเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
– การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือน ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง