เพราะการนอนเป็นเรื่องสำคัญ และอาการกรนที่หลายๆ คนคิดว่าเป็นแค่เสียงที่น่ารำคาญ แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงโรคหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ได้ ซึ่งจากสถิติพบว่า ร้อยละ 20 ของผู้ที่นอนกรนเป็นประจำมักมีอาการหยุดหายใจร่วมด้วย สำหรับผู้ที่เป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก โดยอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน อัมพฤกษ์ อัมพาต ความจำถดถอย การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และยังอาจเกิดภาวะง่วงนอนกลางวันมากกว่าปกติ อาการหลับใน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ป่วยเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) มีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน และผู้ที่มีการหยุดหายใจขณะหลับในระดับรุนแรงน้อย คือ น้อยกว่า 15 ครั้งต่อชั่วโมง จะมีอัตราการเสียชีวิตจากการหยุดหายใจขณะหลับเฉลี่ยร้อยละ 8 ซึ่งหากหยุดหายใจมากกว่า 15 ครั้งต่อชั่วโมง จะมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10-16
ดังนั้น คู่รักขาเตียงแข็งแรงอย่าง มอส – เกม จึงมาร่วมแชร์ประสบการณ์ "นอนหลับอย่างไรให้ร่างเป๊ะ...ใจปิ๊ง" เพื่อสุขภาพที่ดีของคนที่คุณรัก
คุณมอส-ปฎิภาณ ปฐวีกานต์ ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับการนอนกรน และผลกระทบที่ได้รับในชีวิตประจำวัน ว่า "ด้วยความที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ก็จะทำงานค่อนข้างเยอะ ทั้งงานคอนเสิร์ต อีเว้นท์ต่างๆ ทำให้ปกติก็พักผ่อนไม่ค่อยเพียงพออยู่แล้ว พอกลับถึงบ้านมานอนหลับ ตัวผมเองไม่รู้สึก แต่คนข้าง ๆ เขาจะรู้เลยว่าผมนอนกรน ซึ่งมันก็จไปกระทบการพักผ่อนของเขาด้วย แล้วเวลาที่ตื่นขึ้นมา ก็จะรู้สึกคอแห้ง ช่วงกลางวันก็เริ่มมีอาการง่วงเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม ทำให้เวลาทำงานต้องพยายามใช้สมาธิเยอะมาก เพราะจะเบลอๆ คือตอนนั้นรู้สึกเลยว่าปล่อยเอาไว้คงไม่ดีกับการทำงานแน่นอน จึงวางแผนที่จะเข้าไปตรวจที่ Sleep Center ด้วย แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมายังไม่มีเวลา เพราะพึ่งจะกลับมาจากการพาน้องโสนและน้องสวรรค์ไปเที่ยว จึงใช้อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ เป็นแบบทดสอบ 8 ข้อ ที่ให้เราสามารถตรวจด้วยตัวเองก่อนได้ว่ามีความเสี่ยงหรืออาการมากน้อยแค่ไหน โดยถ้ามีอาการมาก เท่าที่รู้ก็อาจจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจสำหรับคนนอนกรน หรือการผ่าตัด เพื่อลดอาการนอนกรนและให้เราพักผ่อนได้อย่างเพียงพอครับ"
ด้านภรรยาสคนสวย เกม - ดวงพร ปฐวีกานต์ ได้แสดงความเป็นห่วงว่า " ตอนแรกยอมรับเลยว่า แอบรู้สึกรำคาญนิดๆ เพราะเราเองก็อยากนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ แต่ก็ต้องมาสะดุ้งตื่นทุกครั้งเพราะเสียงกรน พอเราเริ่มสังเกตอาการเวลาที่เขากรนดี ๆ เลยพบว่า บางครั้งจะเหมือนเขาหยุดหายใจไปช่วงหนึ่ง ซึ่งเรากลัวมาก จึงพยายามที่จะปลุกหรือทำให้เขาพลิกตัว เพื่อให้เขากลับมาหายใจอีกครั้ง แต่สักพักก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก เราเลยพยายามไปศึกษา แล้วพบว่าการนอนกรนและมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มีโอกาสที่จะทำให้เป็นโรคหัวใจ โรคสมอง ความจำถดถอย ง่วงนอนกลางวันและหลับใน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยตอนนั้นเราทราบมาว่ามี Sleep Center ที่เป็น Lab สำหรับตรวจและวินิจฉัยโรคหยุดหายใจขณะนอนหลับโดยเฉพาะ ด้วยความเป็นห่วงจึงชวนให้เขาไปตรวจและทำการรักษาค่ะ และอยากให้ทุกคน มองว่า การนอนกรน เป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง รวมทั้งยังอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของคู่รักและทำให้เกิดปัญหาในครอบครัวได้"
สำหรับผู้ที่สนใจ หรือสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยงโรคหยุดหายใจขณะหลับ สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบได้ที่ Philips.com.sg/saveoursleep.