DITPสั่งทูตพาณิชย์จับตาความเสี่ยง-โอกาสไทยหลัง Brexit

พฤหัส ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๕๑
พร้อมติดตามรายการสินค้าที่เป็นโอกาสและได้รับผลกระทบ เตรียมแผนผลักดันการค้า-ลงทุนหลังสถานการณ์มีความชัดเจน

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ประจำยุโรป ติดตามสถานการณ์ และรายสินค้าที่เป็นโอกาสและที่ได้รับผลกระทบจากกรณีสหราชอาณาจักรจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit)อย่างรอบด้าน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามว่าสภายุโรปจะมีการพิจารณาเลื่อนการออกการเป็นสมาชิกของสหราชอาณาจักรหรือไม่ ซึ่งจากผลการลงประชามติเดิมมีมติเห็นชอบให้ออกจากการเป็นสมาชิกในวันที่ 29 มีนาคม 2562 นี้ แต่หากพิจารณาเลื่อนไปอีก 3 เดือนจากนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผลในเดือนมิถุนายน 2562

ทั้งนี้ DITP ประเมินปัจจัยดังกล่าวเป็นภาพบวกต่อการค้าไทย เพราะเมื่อสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกจะทำให้สหราชอาณาจักรหันมาให้ความสำคัญกับประเทศในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น รวมไปถึงไทยซึ่งทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน หรือย้ายฐานเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการภาคธุรกิจจะต้องเตรียมความพร้อมในการรองรับการลงทุนเพราะกลุ่มประเทศในอาเซียนถือเป็นแหล่งลงทุนและขยายธุรกิจอีกทั้งยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น DITP ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเล็งเห็นถึงโอกาส จึงได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด "หากเห็นโอกาสในการเติบโตการค้า การส่งออก การลงทุนในรายสินค้าหรืออุตสาหกรรม จะประสานไปยังภาคเอกชนในการเตรียมความพร้อม รวมไปถึงภาคการเจรจาการค้าเพื่อขยายการค้าและการส่งออกให้มากขึ้น ไม่ใช่เพียงเฉพาะตลาดสหราชอาณาจักรยังรวมไปถึงตลาดยุโรป จีน อินเดีย และแอฟริกาด้วย ซึ่งขณะนี้ DITP ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการส่งเสริมการค้า การส่งออกไปในตลาดดังกล่าวให้มากขึ้น" นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว

DITP ยังมีแผนที่จะเจาะตลาดเป็นรายรัฐ รายมณฑล รายสินค้ารวมถึงตลาดอื่นๆ เพื่อขยายตลาดได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยและผู้ส่งออกต้องเร่งเพิ่มมูลค่าและคุณภาพของสินค้า ไปจนถึงภาคธุรกิจบริการให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่ง DITP พร้อมจะสนับสนุนและส่งเสริมภาคเอกชนอย่างเต็มที่ เนื่องจากในปี 2562 กรมเตรียมกิจกรรมเพื่อผลักดันการส่งออกให้กับภาคเอกชนไว้จำนวนมาก รวมทั้งช่วยเปิดตลาดใหม่ๆด้วย จากสถิติในปี 2561 สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยและสหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 20 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับ

สหราชอาณาจักรคิดเป็นสัดส่วน 1.40% ของการค้าทั้งหมดของไทย ซึ่งมีมูลค่ารวม 7,044.29 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งไทยส่งออกสินค้าไปสหราชอาณาจักรมูลค่า 4,062.42 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาจักรมูลค่า 2,981.87 ล้านเหรียญสหรัฐโดยสหราชอาณาจักรขาดดุลการค้า 1,080.55 ล้านเหรียญสหรัฐขณะที่สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปสหราชอาณาจักร ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ สินค้านำเข้าจากสหราชอาณาจักรสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ น้ำมันดิบ แผงวงจรไฟฟ้า

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) www.ditp.go.th หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด