“อุปกิต ปาจรียางกูร” เคลียร์คัทก่อนเข้ารับตำแหน่ง สว. ลาออกจากบอร์ด UPA ทุกตำแหน่ง-ขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด

อังคาร ๑๔ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๕๘
ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนอนาคตยังไปอีกไกล-มีทีมบริหารมืออาชีพดูแล-ปีนี้เทิร์นอะราวด์

บิ๊กบอส UPA "อุปกิต ปาจรียางกูร" เคลียร์ทุกอย่างเพื่อความโปร่งใส หลังได้รับเทียบเชิญเข้ารับตำแหน่ง สว. โดยประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในบริษัทฯ พร้อมขายบิ๊กล็อตหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส ยืนยัน UPA มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีอนาคตที่สดใสจากธุรกิจพลังงานทดแทน ที่สำคัญคือโครงสร้างธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งมีทีมผู้บริหารเป็นมืออาชีพ พร้อมสานต่อนโยบายมุ่งมั่นที่จะทำให้ธุรกิจกลับมา "เทิร์นอะราวด์" ตามแผน

บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (UPA) เปิดเผยว่า นายอุปกิต ปาจรียางกูร ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง กรรมการ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ได้เปลี่ยนแปลงการดำรงตำแหน่งผู้บริหารของ นายวิชญ์ สุวรรณศรี จากรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านบัญชีและการเงิน เป็น รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านบัญชีและการเงิน โดยมีผลในวันเดียวกัน

พร้อมกันนี้ รายงานว่านายอุปกิต ปาจรียางกูร ได้ดำเนินการขายหุ้นผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯบนกระดาน (Big Lot ) รวมจำนวน 1,700 ล้านหุ้น มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ UPA ซึ่งเป็นราคาเสนอขายใกล้เคียงกับราคาบนกระดาน

นายอุปกิต ปาจรียางกูร เปิดเผยถึงสาเหตุที่ลาออกและขายหุ้น UPA ออกไป เนื่องจากต้องการแสดงให้เห็นความโปร่งใส สร้างบรรทัดฐาน และธรรมาภิบาลที่ดี ก่อนเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ว.) อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ เนื่องจาก UPA ดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนซึ่งมีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ประกอบกับมีผู้บริหารและทีมงานที่เป็นมืออาชีพ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธรกิจให้กลับมาเทิร์นอะราวด์ ตามแผนที่วางเอาไว้

ทั้งนี้ UPA ได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2562 กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการโซลาร์สหกรณ์การเกษตรทั้ง 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสหกรณ์ผู้ผลิตและผู้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อ.กระแสสินธุ์ ,โครงการสหกรณ์การเกษตรวิเชียรบุรี และโครงการสหกรณ์การเกษตรกะทูน กำลังการผลิตรวม 7.95 เมกะวัตต์ ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เข้ามามีอัตรารับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ 4.12 บาท/หน่วย เป็นระยะเวลา 25 ปี ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้ประมาณ 48 ล้านบาท/ปี

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการน้ำประปาแสนดินใน สปป. ลาว สัมปทาน 50 ปี กำลังการผลิตรวม 48,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ที่จะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายน้ำในเร็วๆนี้ รวมทั้งยังมองหาโอกาสในการลงทุนพลังงานทางเลือกใหม่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและการเติบที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน