“ORI” ขึ้นแท่นบิ๊กอสังหาฯ เปิดโครงการสะสมทะลุแสนล้าน วางเป้ารายได้โตต่อเนื่องถึง 30,000 ล้านในปี 2565

พฤหัส ๑๖ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๓:๕๑
"ออริจิ้น" ขึ้นแท่นบิ๊กอสังหาฯ เปิดโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่าสะสมทะลุ 1 แสนล้านบาทในปี 62 สะท้อนความเชื่อมั่นลูกค้าที่ไว้วางใจ คาดสิ้นปีพอร์ตรายได้ธุรกิจบ้านจัดสรรโตแตะ 15% หลังปรับเป้าเปิดโครงการใหม่เป็น 8,000 ล้านบาท โชว์ธุรกิจ New S Curve ดันรายได้โตต่อเนื่องถึง 30,000 ล้านในปี 65

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภายในปีนี้ บริษัทจะมียอดเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่าสะสมทะลุ 1 แสนล้านบาท กลายเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพียงไม่กี่บริษัทที่สามารถเปิดตัวโครงการสะสมทะลุยอดดังกล่าว และถือเป็นบริษัทที่สามารถพัฒนาโครงการให้ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเปิดตัวโครงการสะสมทะลุหลักแสนล้านบาทภายใน 10 ปี ทั้งนี้บริษัทมีสถานะแบ็กล้อกคุณภาพ ณ สิ้นไตรมาส 1 สูงถึง 34,000 ล้านบาท ที่จะรับรู้รายได้อีก 3 ปี ข้างหน้าไว้เป็นทุนแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสิ้นปี 2562 สัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจประเภทต่างๆ ของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่สัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 80% ธุรกิจบ้านจัดสรรอยู่ที่ 10% แต่ในปีนี้ รายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรรขยับเพิ่มมาเป็น 15% และคาดว่าภาพรวมบริษัท ยังสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นไว้ได้ที่ระดับ 40%

"ธุรกิจบ้านจัดสรรอาจไม่ใช่ธุรกิจที่มีกำไรมากเท่าธุรกิจคอนโดมิเนียม แต่เป็นธุรกิจที่สามารถทำรอบได้เร็วเฉลี่ย 1.5-2 รอบต่อปี ทำให้บริษัทสามารถทำรายได้รวมและกำไรได้ดีขึ้น โดยช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทเริ่มมีรายได้จากโครงการใหม่ที่เริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้เพิ่มเติมถึง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบริทาเนีย เมกะทาวน์ บางนา และโครงการบริทาเนีย บางนา กม. 12" นายพีระพงศ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับเป้าการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรภายใต้แบรนด์บริทาเนีย (Britania) เพิ่มเติม เป็น 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,000 ล้านบาท และภายในไตรมาส 3 ของปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมที่จับกลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมครั้งแรก (First Condo Buyer) และกลุ่มสตาร์ทอัพภายใต้แบรนด์ดิ ออริจิ้น (The Origin)

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า แผน 5 ปีของบริษัท คือการมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 15% ทำให้ภายในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้รวมทุกกลุ่มธุรกิจถึง 30,000 ล้านบาท จากเดิม 16,638 ล้านในปี 2561 โดยปัจจุบันบริษัทมีแบ็คล็อกคุณภาพอยู่แล้วที่ประมาณ 34,000 ล้านบาท พร้อมทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2564 ซึ่งตอกย้ำให้แผนการเติบโตของบริษัทเป็นไปได้ตามเป้าหมาย

"เรามีวิสัยทัศน์ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการสร้าง New S Curve หรือธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนอย่างโรงแรม ที่จะเริ่มสร้างรายได้เข้ามาเป็นครั้งแรกในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ถึง 2 โครงการ ได้แก่ โรงแรม Staybridge Suites Bangkok Thonglor และโรงแรม Holiday Inn & Suites Sriracha จากวิสัยทัศน์ทั้งหมดของเรา ทำให้เรากลายเป็นบริษัทที่มีรายได้เติบโตอย่างมั่นคงและกลมกล่อม" นายพีระพงศ์ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน